สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค ห่วงวัยรุ่นรักไม่ปลอดภัยช่วงสงกรานต์ แนะยึดหลัก “C2T” ปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

          กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชนในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์นี้ ขอให้ป้องกันตนเองตามมาตรการป้องกันโควิด 19 และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่อาจมีโอกาสเกิดการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เสี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แนะให้ปฏิเสธเมื่อไม่พร้อมและหลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสอง แต่หากมีเพศสัมพันธ์ขอให้ยึดหลัก C2T เพื่อความปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

            วันนี้ (10 เมษายน 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทางรัฐบาลขอให้ทุกภาคส่วนงดจัดกิจกรรมที่มีผู้คนมารวมตัวกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แต่ก็อาจมีกลุ่มวัยรุ่นบางส่วนที่นัดรวมตัวกันเพื่อเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวนี้ รวมถึงอาจมีการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ขาดการยับยั้งใจ นำไปสู่โอกาสที่วัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย และทำให้เกิดปัญหาท้องไม่พร้อมหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามมาได้

            สำหรับสถานการณ์ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบันมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคซิฟิลิสในกลุ่มอายุ 15-24 ปี โดยในปี 2559-2563 เท่ากับ 13.7, 20.2, 27.9, 41.4 และ 50.4 ต่อประชากรแสนคน และสถานการณ์โรคหนองใน ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี  ปี 2559-2563 เท่ากับ 59.3, 68.1, 63.7, 69.7 และ 58.8 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ ซึ่งผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีโอกาสการติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ป่วยถึง 5-9 เท่า

          แพทย์หญิงชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวเสริมว่า กรมควบคุมโรค ขอแนะนำประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่สองต่อสอง ไม่ควรฉวยโอกาสหรือพิสูจน์ความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ กล้าปฏิเสธเมื่อไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์หรือเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย พกถุงยางอนามัยติดตัวเสมอเพื่อความปลอดภัย แต่หากมีเพศสัมพันธ์ขอให้ยึดหลัก “C2T” (ซีทูที) คือ C-Condom ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ โดยเลือกให้ถูกไซส์ เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศ เก็บอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงแสงแดดและเก็บในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการเสื่อมหรือชำรุด ใช้ให้ถูกสเต็ป  ใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับทุกคน ทุกช่องทาง และทิ้งให้ถูกที่ ลงถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ไม่ทิ้งลงแม่น้ำ คูคลองเด็ดขาด  T-Testing เมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกัน ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองหาการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน  ทั้งนี้ สามารถชวนคู่รักมาตรวจหาการติดเชื้อพร้อมกันได้ เพื่อให้รู้สถานะการติดเชื้อของตัวเองและคู่ หากมีผลเลือดเป็นบวก (ติดเชื้อ) จะเข้าสู่กระบวนการรักษา ซึ่งเชื่อมโยงกับ T-Treat เมื่อมีผลเลือดเป็นบวก จะได้เข้ารับการรักษาโดยทันที และกรณีพบการติดเชื้อเอชไอวี ถ้าเข้ารับการรักษาอย่างรวดเร็ว เชื้อเอชไอวีจะลดลง ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะสูงขึ้น สามารถลดการเจ็บป่วยจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาส  และหากมีผลเลือดเป็นลบ (ไม่ติดเชื้อ) จะได้รับคำปรึกษาและวิธีการป้องกันต่อไป

          ทั้งนี้ หากมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือมีอาการสงสัยที่เกี่ยวข้องกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถเข้ารับบริการตรวจรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐได้ทุกแห่ง ส่วนประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สามารถเข้ารับบริการได้ที่อาคารบางรัก ย่านสาทร โทร.08 1875 9904 ซึ่งคนไทยสามารถตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ทุกโรงพยาบาลที่ให้บริการภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์ของโรคโควิด 19 นี้ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากาก 100% ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงไปในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก รวมถึงสถานที่เสี่ยงต่างๆ เพื่อป้องกันการรับเชื้อและแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

*************************************

ข้อมูลจาก : กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 10 เมษายน 2564


ข่าวสารอื่นๆ