สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค ชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง รับ ”วัคซีนไข้หวัดใหญ่” ลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงในสถานการณ์โควิด 19

        กรมควบคุมโรค เชิญชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป, เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี, ผู้มีโรคเรื้อรัง อาทิ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ ไตวาย เบาหวาน , ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป, ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้,โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และโรคอ้วน เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ชี้ช่วยลดความเสี่ยงป่วยรุนแรงในสถานการณ์โควิด 19

          วันนี้ (11 สิงหาคม 2564) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มียอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ประกอบกับอยู่ในช่วงฤดูฝนที่เป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และมีวัคซีนป้องกัน โดยฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้กรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป  2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี  3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป  5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้  6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งรวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ 7.โรคอ้วน คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ มีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ทีสถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และที่สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และขอให้ติดตามข่าวสารเรื่องระยะเวลาในการฉีดวัคซีนต่อไป

           “การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะมีผลดี คือ หากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความรุนแรงจากการป่วย และลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากโรคนี้ได้ และในช่วงสถานการณ์โควิด 19 มีการศึกษาในสหรัฐอเมริกา และจีนพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด 19 มากกว่าร้อยละ 60 จะมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอร่วมด้วย โดยหากผู้ป่วยติดเชื้อ 2 โรคนี้พร้อมกันจะเพิ่มความรุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้น การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จึงเป็นการลดอาการแทรกซ้อนและความรุนแรงหากติดเชื้อโควิด 19 “ นายแพทย์โอภาสกล่าว

          นายแพทย์โอภาสกล่าวต่อไปว่า ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ยกเว้น เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปีควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนโควิด โดยเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด และต้องไม่ลืมป้องกันตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือฟอกสบู่เป็นประจำ หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น งดการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทุกชนิด ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

 

****************

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 11 สิงหาคม 2564


ข่าวสารอื่นๆ