กองระบาดวิทยา
Responsive image

กรมควบคุมโรค แนะวิธีช่วยผู้ที่โดนแมงกะพรุนพิษให้ใช้ “น้ำส้มสายชู” ราดล้างพิษ ห้ามใช้น้ำจืด!!

กรมควบคุมโรค แนะวิธีช่วยผู้ที่โดนแมงกะพรุนพิษให้ใช้ “น้ำส้มสายชู” ราดล้างพิษ ห้ามใช้น้ำจืด!!

           กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนที่ลงเล่นน้ำทะเลช่วงฤดูฝนระวังแมงกะพรุนพิษ โดยเฉพาะแมงกะพรุนกล่องมีพิษรุนแรง อาจเสียชีวิตภายใน 2-10 นาที ปีนี้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย แนะวิธีช่วยเหลือ ให้รีบขึ้นจากน้ำ และรีบล้างพิษด้วยน้ำส้มสายชูทั่วไปราดบริเวณที่สัมผัสต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที และให้รีบพาไปพบแพทย์ ห้ามราดด้วยน้ำจืด หรือเหล้าขาวและห้ามถูขยี้บริเวณที่สัมผัสพิษเด็ดขาด จะทำให้พิษเข้าร่างกาย เป็นอันตรายมากขึ้น

          วันนี้ (9 ตุลาคม 2564) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงภัยสุขภาพทางทะเลที่พบในฤดูฝนว่า ที่เป็นห่วงก็คือแมงกะพรุนพิษ ซึ่งจะพบมากบริเวณใกล้ชายหาดในช่วงหลังฝนตกใหม่ๆ โดยเฉพาะบริเวณฝั่งอ่าวไทย โดยแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษร้ายแรงและอาจทำให้ผู้ที่สัมผัสเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว คือ แมงกะพรุนกล่อง (Box Jellyfish) ลำตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยมโปร่งใสจนแทบมองไม่เห็น ที่มุมเหลี่ยมจะมีหนวดยื่นออกมา มี 2 ชนิด คือ ชนิดหนวดเส้นเดียวและชนิดมีหนวดหลายเส้นประมาณ 12-15 เส้น ที่สายหนวดจะมีกระเปาะพิษ แมงกะพรุนกล่อง 1 ตัว อาจมีกระเปาะพิษถึงล้านถุง เป็นสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสกับแมงกะพรุนกล่องชนิดที่มีหนวดหลายเส้น อาการของผู้ที่โดนพิษแมงกะพรุนกล่อง มีตั้งแต่ผื่นแดง หรือรอยไหม้ที่ผิวหนัง ปวดแสบปวดร้อนรุนแรง หากได้รับพิษในปริมาณมาก พิษเข้าสู่กระแสเลือดและจะเข้าสู่หัวใจ ทำให้เวียนศีรษะ หัวใจหยุดเต้น ระบบหายใจล้มเหลว อาจเสียชีวิตได้ภายใน 2-10 นาที สถานการณ์ระหว่างปี 2542-2564 มีผู้ได้รับบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตจากแมงกะพรุนกล่อง รวม 48 ราย รายล่าสุดเป็นเด็กชายชาวต่างชาติ อายุ 9 ปีเสียชีวิตช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2564 ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีประวัติลงเล่นน้ำนอกตาข่ายกั้น

                ด้าน นายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า หากสงสัยว่าอาจโดนแมงกะพรุนพิษ ขอให้ปฏิบัติดังนี้ 1. ควรรีบนำผู้บาดเจ็บขึ้นจากน้ำทะเล 2. รีบร้องขอความช่วยเหลือและโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669  3. ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่ง ๆ และห้ามขัดถู บริเวณที่ถูกแมงกะพรุนกัด เพื่อป้องกันการได้รับพิษเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนไหว กระทบกระเทือนหรือสัมผัสบริเวณที่โดนหนวดแมงกะพรุนจะยิ่งกระตุ้นการยิงพิษ 4. รีบล้างพิษทันที โดยใช้น้ำส้มสายชูความเข้มข้น 4-6% ที่ใช้ในครัวเรือนทั่วไป ราดที่บริเวณที่โดนกัด อย่างต่อเนื่องกันอย่างน้อย 30 วินาที (ห้ามราดด้วยน้ำจืด น้ำเปล่า หรือแอลกอฮอล์) น้ำส้มสายชูจะหยุดยั้งไม่ให้กระเปาะพิษยิงเข็มพิษ ป้องกันไม่ให้ผู้บาดเจ็บได้รับพิษเพิ่มขึ้น 5. หากผู้บาดเจ็บไม่มีชีพจร ให้ปั๊มหัวใจก่อนราดน้ำส้มสายชู หากไม่หายใจ ให้ช่วยปฐมพยาบาลให้หายใจก่อนราดน้ำส้มสายชู และรีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

             “ข้อควรระวัง และเป็นข้อห้ามในการช่วยปฐมพยาบาลผู้ที่โดนพิษจากแมงกะพรุน คือ ห้ามขัดถูหรือขยี้บริเวณที่สัมผัสสายหนวดแมงกะพรุน ห้ามใช้น้ำจืด หรือเหล้าขาว หรือน้ำปัสสาวะ ราดอย่างเด็ดขาด เนื่องจากจะกระตุ้นการยิงเข็มพิษ ทำให้พิษกระจายเพิ่มขึ้น เป็นอันตรายทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้น” นายแพทย์จักรรัฐ กล่าว

          สำหรับการป้องกันภัยจากแมงกะพรุนกล่อง ก่อนลงเล่นน้ำทะเล ขอให้ประชาชนสังเกตที่บริเวณชายหาด หากพบว่ามีซากของแมงกะพรุนที่อยู่ตามชายหาด ควรหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำ หรือให้ลงเล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัยที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เท่านั้น และให้ปฏิบัติตามคำเตือนของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยสวมเสื้อผ้ามิดชิด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

*************************************

ข้อมูลจาก : กองระบาดวิทยา/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 9 ตุลาคม 2564

 

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

ข่าวสารอื่นๆ