สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ แนะร้านอาหารห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกินเวลาที่กำหนด ย้ำมาตรการป้องกันควบคุมโรค หยุดแพร่เชื้อโรคโควิด-19
แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 – 12 พฤศจิกายน 2564 พบว่ามีเหตุการณ์การระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ที่มาจากสถานบันเทิง และร้านอาหารที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 18 เหตุการณ์ เป็นเหตุการณ์ที่สิ้นสุดการเฝ้าระวัง 28 วันแล้ว 15 เหตุการณ์ เฝ้าระวังในช่วง 21 วัน 1 เหตุการณ์ เฝ้าระวังในช่วง 14 วัน 1 เหตุการณ์ และเฝ้าระวังในช่วง 7 วัน 1 เหตุการณ์ โดยพบมากที่สุดในจังหวัดลำพูน 6 คลัสเตอร์ รองลงมาคือ เชียงใหม่ 3 คลัสเตอร์ เชียงราย พะเยา น่าน แม่ฮ่องสอน จังหวัดละ 2 คลัสเตอร์ และลำปาง 1 คลัสเตอร์ ซึ่งจากการสอบสวนโรคสาเหตุพบว่าเกิดจากการดื่มสุราโดยการเวียนแก้ว การรับประทานอาหารร่วมกัน ประกอบกับการดื่มสุราทำให้ขาดสติ ไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ทำให้เกิดคลัสเตอร์ในสถานบันเทิง ร้านอาหาร เป็นจำนวนมาก พบผู้ป่วยจากคลัสเตอร์เหล่านี้ จำนวนมากถึง 1,764 ราย
แพทย์หญิงเสาวนีย์ กล่าวต่อว่าจากสาเหตุการดื่มสุราร่วมกัน ทำให้เกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนหรือคลัสเตอร์ในแต่ละจังหวัด ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดได้มีมาตรการตามแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และกฎหมายโรคติดต่อ ใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เพื่อลดการติดเชื้อโรคโควิด-19 และลดการแพร่ระบาดที่จะทำให้เกิดคลัสเตอร์ที่มาจากสถานบันเทิงและสถานที่อื่นๆที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก พร้อมแนะนำให้ประชาชนงดเว้นการดื่มสุราร่วมกัน และการทานอาหารร่วมกัน รวมทั้งดำเนินการตามมาตรการDMHTTA เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 หากมีข้อส่งสัยประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422