สคร.6 ชลบุรี แนะสถานศึกษาคัดกรองและสังเกตอาการเด็กก่อนเข้าเรียน
ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก
***************************************************
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง อากาศเย็นลงและมีความชื้น เนื่องจากมีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมือ เท้า ปาก ประกอบกับสถานศึกษาเปิดเรียนเป็นปกติ เด็กอาจมีการทำกิจกรรมรวมกลุ่ม ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งโรคดังกล่าวมีแนวโน้มพบอัตราป่วยมากที่สุดในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน ดังนั้น สถานศึกษา ต้องมีมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการของเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้า เพื่อเฝ้าระวังการป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก
สถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 ก.ค.2565 ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรค มือ เท้า ปาก อายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 8,609 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนสถานการณ์ของโรค มือ เท้า ปากในเขตสุขภาพที่ 6 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 ก.ค.2565 มีรายงานผู้ป่วยรวม 805 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกผู้ป่วยเป็นรายจังหวัด ดังนี้ ชลบุรีจำนวน 240 ราย สระแก้วจำนวน 146 ราย ระยอง 135 ราย สมุทรปราการ 100 ราย ฉะเชิงเทรา 67 ราย ตราด 66 ราย จันทบุรี 45 ราย ปราจีนบุรี 6 ราย ส่วนใหญ่พบในเด็ก อายุ 4 ปี รองลงมาคือ 3 ปี และ อายุ 2 ปี ตามลำดับ
สำหรับอาการของโรคมือ เท้า ปาก จะเริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 ชลบุรี จึงขอเน้นย้ำให้สถานศึกษา สังเกตอาการของเด็กอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำแนะนำป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ดังนี้ 1.คัดกรองเด็กก่อนเข้าเรียนทุกเช้าอย่างเคร่งครัด 2.ให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เพื่อลดการสัมผัส ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น 3.หมั่นทำความสะอาดของใช้ ของเล่นและพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกัน เป็นประจำ 4.สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร หลังเข้าห้องน้ำ และ หลังเล่นของเล่น 5.จัดให้มีพื้นที่ในการเข้าแถวทำกิจกรรมหรือเล่นเป็นกลุ่มย่อย จำนวน 5-6 คน มีการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร และ 6.หากเด็กไม่สบายหรือมีไข้ก่อนมาเรียน ผู้ปกครองควรพาไปพบแพทย์และให้พักอยู่บ้าน ส่วนสถานศึกษาหากพบ เด็กป่วยให้แยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน เพื่อพาไปพบแพทย์โดยเร็ว พร้อมทั้งให้เด็กหยุดเรียนจนกว่าจะหาย แยกของใช้ส่วนตัวของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับเด็กคนอื่น งดไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถป้องกันได้ทั้งโรคมือ เท้า ปาก โรคโควิด 19 และโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจอื่นๆ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร.1422
อ้างอิงข้อมูล โดย กลุ่มโรคติดต่อ สคร.6 ชลบุรี