สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น
Responsive image

กรมควบคุมโรค ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย เดินหน้าระบบบริการและยาเลิกบุหรี่แบบครบวงจรพุ่งเป้าระยะแรกกลุ่มผู้ประกันตน 1 หมื่นคน เลิกบุหรี่สำเร็จ

กรมควบคุมโรค ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย เดินหน้าระบบบริการและยาเลิกบุหรี่แบบครบวงจรพุ่งเป้าระยะแรกกลุ่มผู้ประกันตน 1 หมื่นคน เลิกบุหรี่สำเร็จ

 

          กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เปิดตัวโครงการสนับสนุนการเข้าถึงระบบบริการและยาเลิกบุหรี่แบบครบวงจร โดยเป้าหมายระยะแรกเน้นกลุ่มผู้ประกันตน หวังคืนคนปอด(สุขภาพ)ดี
สู่ครอบครัว

          วันนี้ (27 ตุลาคม 2563) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค    เป็นประธานในพิธีเปิดตัวโครงการสนับสนุนการเข้าถึงระบบบริการ และยาเลิกบุหรี่แบบครบวงจรสำหรับผู้ประกันตน ณ โรงพยาบาลปทุมธานี ตำบลบางปรอก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้บริหารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ผู้ช่วยตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4  สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี  ประธานหอการค้าจังหวัดปทุมธานี ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ และภาคีเครือข่าย ร่วมเป็นเกียรติในงาน 

          จากมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา เห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข ผลักดันให้ทุกโรงพยาบาล จัดตั้งคลินิกเลิกบุหรี่แบบครบวงจร กรมควบคุมโรค จึงร่วมกับสำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการสังคมและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน และสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ขับเคลื่อนและผลักดันระบบบริการช่วยเลิกบุหรี่แบบครบวงจรในสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเลิกสูบบุหรี่ สามารถเข้าถึงบริการได้โดยง่าย โดยในระยะแรกจะมุ่งเน้นการให้บริการการคัดกรอง/บำบัดในกลุ่มวัยทำงานที่อยู่ในกลุ่มผู้ประกันตน นอกจากนี้ภายใต้โครงการดังกล่าวยังสนับสนุนการเข้าถึงยาเลิกบุหรี่ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่ในกลุ่มผู้ประกันตนที่ต้องการเลิกบุหรี่และมีความเสี่ยงสูงหรือป่วยด้วยภาวะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง/โรคเรื้อรังอื่นๆที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้พัฒนาเทคโนโลยีระบบติดตามผลการบำบัด และส่งต่อข้อมูลผู้เข้าใช้บริการ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างสถานบริการสาธารณสุข/สถานพยาบาลประกันสังคมกับสถานพยาบาลเครือข่าย/สถานประกอบการในพื้นที่ ซึ่งเป้าหมายของโครงการในระยะแรก คือ การคืนคนปอด(สุขภาพ)ดีสู่ครอบครัวและสังคมให้ได้อย่างน้อย 10,000 ราย ภายในปี พ.ศ.2564 

          สำหรับสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และ รพ.สต. รวมถึงสถานพยาบาลของรัฐที่อยู่ในเครือข่ายของประกันสังคม และสถานประกอบการในพื้นที่ ที่มีระบบบริการช่วยเลิกบุหรี่สุราแบบครบวงจร กลุ่มเป้าหมายที่สามารถเข้ารับบริการโครงการนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ และผู้ประกันตนที่ป่วยในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

          นายแพทย์โอภาส ขอย้ำเตือนประชาชนว่า ขณะสูบบุหรี่จะไม่มีการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสรับเชื้อโควิด 19 จึงขอความร่วมมือประชาชนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันมาตรการ “เลิกสูบ ลดเสี่ยง” เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเองและสังคม เพื่อคนไทยสุขภาพดี ไม่ติดโควิด 19 และใช้โอกาสนี้เริ่มต้นในการเลิกสูบบุหรี่ทุกประเภท เพราะการเสียเงินซื้อบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ นอกจากทำลายสุขภาพตัวเองและคนรอบข้างแล้ว ยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องการเลิกบุหรี่สามารถเข้ารับบริการได้ที่สถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใกล้บ้านท่าน หรือรับคำปรึกษาเพื่อเลิกบุหรี่ โทรฟรีผ่านสายด่วนเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1600 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค โทร 02-5903850

**************************************************

ข้อมูลจาก : กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค

วันที่ 27 ตุลาคม 2563


ข่าวสารอื่นๆ