สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น
Responsive image

หมอแนะ ระวังโรคที่มากับน้ำ“เชื้อราที่เท้า” รู้ก่อนป้องกันไว้ โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วม

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น แสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมจากอิทธิพลของพายุหลายระลอก ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ราบลุ่มและริมแม่น้ำได้รับผลกระทบกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำท่วมขัง สำหรับพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 (จังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และมหาสารคาม) ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งสิ้น 2 อำเภอ (กันทรวิชัย,โกสุมพิสัย) จังหวัดมหาสารคาม ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง แนะประชาชนให้ระวังโรคน้ำกัดเท้า โรคระบบผิวหนัง แพ้ ผื่นคัน และอุจจาระร่วง อาจมีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ได้แสดงความห่วงใยต่อประชาชนพื้นที่เสี่ยงว่าภายหลังอิทธิพลจากพายุหลายระลอกที่พัดผ่านประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ เกิดน้ำสะสม น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนที่พักอาศัย แม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่วิกฤติมากนัก แต่ยังพบว่ามีอำเภอ ที่ได้รับผลกระทบบ้างแล้ว จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม ริมแม่น้ำ และพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ระมัดระวังและดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำ โดยเฉพาะโรคน้ำกัดเท้า หรือเชื้อราที่เท้า  

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล กล่าวต่อว่า โรคน้ำกัดเท้า หรือบางคนอาจเรียกทั่วไปว่าฮ่องกงฟุต หรือโรคน้ำกัดเท้า ทางวิชาการเรียกว่า โรคเชื้อราที่เท้า ซึ่งโรคนี้เกิดจากผิวหนังโดยเฉพาะส่วนของเท้า แช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้ผิวหนังอับชื้น เริ่มแรกผิวหนังชั้นบนสุดจะขึ้นเป็นขุยขาวๆ และยุ่ย ต่อมาจะลอกเป็นแผ่นหรือสะเก็ดแล้วแตกเป็นร่องและมีกลิ่น ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่สะสมในชั้นของผิวหนัง ถ้าแกะลอกขุยขาวๆ ที่เปียกยุ่ยออก จะเห็นผิวหนังข้างใต้มีลักษณะแดงๆ และมีน้ำเหลืองซึม มักมีอาการคันยิบๆ ร่วมด้วย อาจลามไปที่ฝ่าเท้า หรือเล็บเท้า ทำให้ฝ่าเท้าลอกเป็นขุย หรือเป็นตุ่มพองใหญ่และคันมาก มักจะเห็นได้บริเวณซอกนิ้วเท้า ถ้ามีอาการอักเสบเป็นหนองด้วย แสดงว่าอาจติดเชื้อแบคทีเรียจากการแกะ เกาผิวหนังบริเวณนั้น สำหรับคำแนะนำในการป้องกันความเสี่ยงจากโรคเชื้อราที่เท้า คือรักษาผิวหนังโดยเฉพาะที่มือ เท้า ให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ ส่วนการดูแลรักษาให้ใช้ยารักษากลากเกลื้อนทาบางๆในบริเวณที่เป็น ทั้งนี้ควรทายารักษาต่อเนื่องนาน 3-4 สัปดาห์ ถ้ามีน้ำเหลืองเยิ้ม ต้องใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำด่างทับทิมหรือน้ำเกลืออ่อนๆโปะจนผ้าหมาดหรือใกล้จะแห้ง ปฏิบัติเช่นนี้บ่อยๆ จนกว่าผื่นคันจะแห้ง จึงใช้ยารักษากลากเกลื้อนได้ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำที่ท่วมขัง หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ควรล้างทำความสะอาดผิวหนังและเช็ดให้แห้งทันที อาจใช้แป้งเด็กโรยที่เท้าบ้างแต่โรยบางๆก็เพียงพอ หรือใช้สารส้มถูผิวหนังบริเวณที่ต้องถูกน้ำบ่อยๆจะช่วยให้ผิวหนังบริเวณนั้นเปื่อยน้อยลง หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข 1422  

“ป้องกันโรคน้ำกัดเท้า ล้างและเช็ดเท้าให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ”

 

************************************

เผยแพร่ :  วันที่ 27 กันยายน 2567

กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น

 

 


ข่าวสารอื่นๆ