สคร.9 นครราชสีมา ห่วงในประชาชน แนะลอยกระทงอย่างปลอดภัย โดยยึดหลัก “ไม่เมา ไม่เก็บ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง” เพื่อป้องกันการจมน้ำ เผยข้อมูลย้อนหลัง10 ปี พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำในคืนวันลอยกระทงรวม 21 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย และขอเน้นย้ำประชาชนให้ระมัดระวังการจมน้ำ

 

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นประเพณีที่คนไทยปฏิบัติสืบต่อกันมาทุกปี โดยปีนี้ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งทุกปีมักเกิดอุบัติเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต จากการเฝ้าระวังการจมน้ำในคืนลอยกระทงของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558 - 2567) มีเหตุการณ์การจมน้ำเกิดขึ้น 19 เหตุการณ์ มีคนจมน้ำเสียชีวิตรวม 21 ราย ใน 14 จังหวัด เกือบทั้งหมดเป็นเพศชาย (20 คน) กลุ่มอายุ 30 - 59 ปี เป็นกลุ่มที่พบการจมน้ำมากที่สุด (ร้อยละ 61.9) รองลงมาคือกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (ร้อยละ 28.6) อายุต่ำสุด คือ 8 ปี และอายุสูงสุด คือ 62 ปี โดยสาเหตุการจมน้ำที่พบบ่อย ได้แก่ การลงไปเก็บเงินในกระทง (ร้อยละ 39.5) การปล่อยเด็กให้อยู่ลำพังโดยไม่มีผู้ดูแล (ร้อยละ 15.8)  และการดื่มแอลกอฮอล์ (ร้อยละ 13.2) ซึ่งการลงไปเก็บเงินในกระทงและดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญในกลุ่มผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังพบกรณีพลัดตกน้ำ เรือล่ม กระโดดลงไปช่วยผู้อื่น ซึ่งมักทำให้เกิดการสูญเสียเพิ่มขึ้น

 

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ขอเน้นย้ำมาตรการสำหรับประชาชนในการป้องกันการจมน้ำ เพื่อป้องกันการสูญเสียคนในครอบครัวจากอุบัติเหตุการจมน้ำ คือ “ไม่เมา ไม่เก็บ ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง” ได้แก่      1) ไม่เมา คือ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือหากดื่มควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หรือลงไปในแหล่งน้ำ 2) ไม่เก็บ คือ ไม่ลงน้ำไปเก็บกระทงหรือเงินในกระทง 3) ไม่ปล่อยเด็กตามลำพัง คือ เด็กเล็กต้องอยู่ในระยะที่แขนเอื้อมถึง ไม่ปล่อยให้เด็กลอยกระทงกันเอง ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด แม้จะลอยในกะละมัง ถังน้ำ หรืออยู่บนฝั่ง เพราะอาจพลัดตกน้ำหรือเสียหลักล้มตกน้ำได้ และหากมีการโดยสารเรือให้สวมเสื้อชูชีพทุกครั้ง และขอความร่วมมือสำหรับหน่วยงาน
ที่จะจัดงานลอยกระทงในปีนี้ให้ยึดหลัก “3 เตรียม” คือ 1. เตรียมพื้นที่ให้ปลอดภัย กั้นพื้นที่สำหรับ
ลอยกระทง ติดป้ายเตือนบริเวณพื้นที่เสี่ยง มีผู้ดูแลและช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 2. เตรียมชูชีพ สำหรับผู้โดยสารเรือทุกคนและไม่บรรทุกเกินจำนวน 3. เตรียมอุปกรณ์ บริเวณแหล่งน้ำที่จัดงานเป็นระยะ เช่น ห่วงชูชีพ
ถังแกลลอนผูกเชือก ไม้ เป็นต้น หากพบเห็นคนตกน้ำ ไม่ควรกระโดดลงไปช่วยเพราะอาจจมน้ำพร้อมกันได้ ควรใช้มาตรการ “ตะโกน โยน ยื่น” คือ 1) ตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ 2) โยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝา หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้ และ 3) ยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัว เช่น ไม้ เชือก เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ นอกจากนั้นหากพบคนจมน้ำ และช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำแล้ว อย่าเสียเวลาในการพยายามเอาน้ำออกจากท้อง โดยการจับคนจมน้ำอุ้มพาดบ่าแล้วกระแทก หรือกดท้อง แต่ให้ช่วยหายใจด้วยการเป่าปากและกดหน้าอก โดยทำการเป่าปาก 2 ครั้ง สลับกับการนวดหัวใจ 30 ครั้ง จนกว่าผู้ประสบภัยจะรู้สึกตัวและหายใจได้เอง โทรแจ้ง 1669 เพื่อนำส่งโรงพยาบาลทุกราย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

---