สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
Responsive image

สคร.9 เตือน รีวิวซอยจุ๊ หมูดิบ ยอดวิวพุ่ง ทำคนอยากลอง...เสี่ยงโรคไข้หูดับไม่รู้ตัว

         ในช่วงนี้มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพิ่มขึ้น จากกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการกินอาหารดิบและดื่มสุราร่วมกับอาหารสุกๆดิบๆ เช่น เนื้อหมูสด เนื้อวัวสด ซอยจุ๊ ลาบดิบ ก้อยดิบ เป็นต้น รวมถึงปัจจัยแวดล้อมและวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร ขอให้ประชาชนระมัดระวังการกิน การประกอบอาหาร และรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ อย่ากินหมูดิบ ลาบเลือดดิบ หรืออาหารปิ้งย่างสุกๆ ดิบๆ เพราะอาจติดเชื้อโรคหูดับได้

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้หูดับว่า เกิดจากการกินเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัสซูอิส  (Streptococcus suis) ปนเปื้อนอยู่ โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และอยู่ในเลือดของหมูที่กำลังป่วย โดยเฉพาะในช่วงนี้มีการรีวิวการทำอาหารดิบร่วมกับดื่มสุราบนสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ติ๊กต็อก ทำให้มียอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ หรืออยากลองทำตาม นอกจากซอยจุ๊ ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบแล้ว การรับประทานหมูกระทะปิ้งย่างไม่สุก หรือ สุกๆ ดิบๆ ก็มีความเสี่ยงทำให้ติดเชื้อโรคหูดับได้ นอกจากนี้โรคไข้หูดับสามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา เมื่อได้รับเชื้อโรคไข้หูดับเข้าไปแล้ว ทำให้ผู้ติดเชื้อมีไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเชลเซียส) ปวดศีรษะ หนาวสั่น สับสนกระสับกระส่าย ปวดข้อ คอแข็ง หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน การทรงตัวผิดปกติ หายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดต่ำ มีจ้ำเลือดทั่วตัว ปวดตา ตาแดง หรือมองภาพไม่ชัด

         สถานการณ์โรคไข้หูดับในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 24 พฤษภาคม 2566 มีผู้ป่วยโรคหูดับ 163 ราย มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ที่ จ.น่าน 1 ราย จ.ตาก 1 ราย จ.อุตรดิตถ์ 2 ราย จ.กำแพงเพชร 1 ราย  จ.มหาสารคาม 1 ราย จ.หนองคาย 1 ราย และจ.นครราชสีมา 1 ราย

         สถานการณ์โรคไข้หูดับ ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 20 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับจำนวน 40 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยแยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้        1) จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 31 ราย   และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย 2) จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 1 ราย 3) จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 7 ราย  4) จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 1 ราย อาชีพที่พบผู้ป่วยสูงสุดคืออาชีพเกษตร ร้อยละ 35 รองลงมาคือ อาชีพรับจ้าง ร้อยละ 30 และอาชีพค้าขาย ร้อยละ 12.5 ตามลำดับ         

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า การป้องกันโรคไข้หูดับ ขอให้ประชาชนรับประทานเนื้อหมูอย่างถูกวิธี ดังนี้

          1.ควรรับประทานเนื้อหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น โดยให้ผ่านความร้อนมากกว่า 70 องศาเซลเซียส

          2.อาหารปิ้งย่าง ควรใช้อุปกรณ์ในการคีบเนื้อหมูดิบและเนื้อหมูสุกแยกจากกัน และขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด”

          3. ไม่ควรรับประทานเนื้อหมูดิบร่วมกับการดื่มสุรา

          4. ควรเลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ไม่ควรซื้อจากแหล่งที่ไม่ทราบที่มาของหมู

          5. ผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 


ข่าวสารอื่นๆ