สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
Responsive image

เตือน !!โรคไข้ปวดข้อยุงลาย โรคร้ายที่มากับหน้าฝน

         โรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดเชื้อที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค มีอาการคล้ายโรคไข้เลือดออก แต่ต่างกันที่อาการของผู้ป่วยจะไม่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โรคนี้มาจากภาษาสวาฮิลี ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของทวีปแอฟริกา หมายถึง เจ็บจนตัวงอ สะท้อนให้เห็นถึงอาการของผู้ป่วยที่เจ็บปวดตามข้อ ปวดข้อต่อ (ข้อนิ้ว ข้อเท้า เข่า) ปวดกระดูก โรคนี้ยังไม่มียารักษา แต่เป็นการรักษาตามอาการ ในการป้องกันโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ใช้หลักการเดียวกันกับโรคไข้เลือดออก คือ เก็บบ้าน เก็บขยะ และเก็บน้ำ จะช่วยป้องกัน 3 โรคได้ในคราวเดียวกัน ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หรือโรคชิคุนกุนยาว่า โรคนี้มีอาการคล้ายกับโรคไข้เลือดออก แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจนถึงมีการช็อก เมื่อผู้ป่วยถูกยุงลายที่มีเชื้อกัด ทำให้มีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ หรือปวดกระบอกตา คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มีผื่นแดงตามตัวแต่ไม่คัน และอาการที่สำคัญคือ ปวดข้อ ปวดกระดูก เมื่อมีอาการเหล่านี้ให้รีบไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยากินเอง  เช่น แอสไพริน หรือไอบูโปรเฟน เพราะจะเพิ่มโอกาสให้เลือดออกตามเนื้อเยื่อต่างๆ ได้

         สถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย ในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 23 พฤษภาคม 2566 พบผู้ป่วย 12 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้ จังหวัดชัยภูมิ พบผู้ป่วย 5 ราย จังหวัดสุรินทร์ พบผู้ป่วย 5 ราย จังหวัดบุรีรัมย์ พบผู้ป่วย 2 ราย ส่วนจังหวัดนครราชสีมา ไม่มีรายงานผู้ป่วย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสะสมสูงที่สุด คือ 15-24 ปี รองลงมาคือ 25-34 ปี อาชีพที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ นักเรียน รองลงมาคือ อาชีพรับจ้าง ค้าขาย เกษตรกร และข้าราชการ

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันโรคนี้ยังไม่มียารักษา แต่เป็นการรักษาตามอาการ จึงต้องเน้นหนักในการป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้ถูกยุงกัด โดยยึดหลัก “3 เก็บป้องกัน 3 โรค” คือ 1.เก็บบ้าน ให้สะอาด เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ บริเวณรอบบ้าน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภคต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ เพื่อช่วยป้องกัน 3 โรค คือโรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

 


ข่าวสารอื่นๆ