สคร.9 นครราชสีมา มีความห่วงใยประชาชนต่อสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ที่มีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในขณะนี้ ซึ่งโรคนี้สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี เน้นย้ำประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล คือ หากมีอาการไข้ ไอให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด หรือที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น ในสถานศึกษา ในโรงพยาบาล และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ หากสงสัยป่วยเป็นโควิด เช่น มีไข้ ไอ หรือเหนื่อยหอบ ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK หากผลเป็นบวกให้สวมหน้ากากอนามัยและรีบไปพบแพทย์
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากโรคโควิด 19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น สามารถพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอม จึงมีโอกาสพบการระบาดมากขึ้น ดังนั้น จึงขอเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เมื่อเข้าไปในสถานที่เสี่ยง เช่น สถานที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก ได้แก่ สถานศึกษา โรงพยาบาล และสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ ให้สวมหน้ากากอนามัย และเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้มีอาการป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน) ซึ่งหากป่วยอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ และหากมีอาการสงสัยว่าป่วย ควรตรวจหาเชื้อเบื้องต้นด้วย ATK เพื่อไม่เป็นการนำเชื้อกลับไปติดกลุ่มเสี่ยง
นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า ในการป้องกันโควิด 19 ขอให้ประชาชนมีความตระหนักแต่ไม่ตระหนก โดยรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล และยึดมาตรการ DMHT ได้แก่
Distancing เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร เลี่ยงการอยู่ในที่แออัด
Mask Wearing สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยง/แออัด/อากาศไม่ถ่ายเท
Hand Washing ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์
Testing ตรวจ ATK เมื่อมีอาการโรคทางเดินหายใจ หากผลเป็นบวกให้สวมหน้ากากอนามัยแล้วรีบไปพบแพทย์ และที่สำคัญหากพบว่ามีความเสี่ยงหรือมีอาการป่วย ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยง 608 หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร