โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อที่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต Melioidosis มีสาเหตุจากเชื้อ Burkholderia (Pseudomonas) pseudomallei ซึ่งเป็นแบคทีเรียฺแกรมลบ ที่ก่อโรคในคนและสัตว์ในเขตร้อนชื้น ในประเทศไทยพบโรคนี้มากในภาคอีสาน ผู้ติดเชื้อจะมีอาการแตกต่างกันมากตั้งแต่ไม่มีอาการ จนกระทั่งติดเชื้อในกระแสโลหิตแพร่กระจายไปทุกอวัยวะ ผู้ป่วยที่มีอาการโลหิตเป็นพิษเฉียบพลันจะมีอัตราป่วยตายสูงถึง 40-60% โดยเฉพาะร่วมกับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ติดสุราเรื้อรัง มักเสียชิวิตภายใน 24-48 ชั่วโมง
ผู้ติดเชื้อจะมีอาการหลากหลาย ทั้งการติดเชื้อเฉพาะที่และการติดเชื้อแพร่กระจายทั่วทุกอวัยวะ ผู้ป่วยมักมาพบแพทย์ด้วยอาการไข้ บางรายมีอาการไม่ต่างจากโรคปอดบวมรุนแรง บางรายมีอาการคล้ายๆ กับวัณโรค อาการสำคัญคือติดเชื้อในกระแสเลือดมีทั้งแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ผู้ป่วยมีอาการเริ่มต้นด้วยอาการไข้คล้ายโรคติดเชื้อหลายโรค เช่น สครัปไทฟัส มาเลเรีย ไทฟอยด์ไข้เลือดออก ดังนั้น การตรวจทางห้องปฏิบัติการจึงมีความสำคัญมาก
การป้องกันโรคเมลิออยด์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ าโดยตรง หากต้องสัมผัสดินหรือน้ า เช่นท าการเกษตรจับปลา ลุยน้ า หรือลุยโคลน ควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาว หรือ ชุดลุยน ้า
- หากสัมผัสดินหรือน้ า ควรท าความสะอาดร่างกายด้วยน้ าสะอาด และฟอกสบู่ทันที
- หากมีบาดแผลที่ผิวหนัง ควรรีบท าแผลด้วยยาฆ่าเชื้อไม่ใส่ดินหรือสมุนไพรใดๆ ลงบนแผล และหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินและน้ าจนกว่าแผลจะหายสนิท
- สวมรองเท้าทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน ไม่เดินเท้าเปล่า
- ดื่มน ้าต้มสุก (เนื่องจาก น้ าฝน น้ าบ่อ น้ าบาดาล และน้ าประปาอาจมีเชื้อปนเปื้อนได้และการกรองด้วยเครื่องที่ไม่ได้รับการบ ารุงรักษาอย่างถูกต้องไม่สามารถฆ่าเชื้อเมลิออยด์ได้)
- ทานอาหารสุกสะอาด (ไม่ทานอาหารที่มีการปนเปื้อนจากดิน ฝุ่นดิน หรืออาหารที่ล้างด้วยน้ าที่ไม่สะอาด)
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสลมฝุ่น และการอยู่ท่ามกลางสายฝน
- เลิกเหล้า เลิกบุหรี่
- ห้ามทานยาต้ม ยาหม้อ ยาชุด ยาลูกกลอน
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจ าตัวจะมีความเสี่ยงกับการเป็นโรคเมลิออยด์สูงขึ้นและควรดูแลสุขภาพให้ดีเช่น ผู้ป่วยเบาหวานควรดูแลระดับน้ าตาลให้ปกติ(ระดับน้ าตาลเท่ากับ 80-100)