กองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
วานนี้(11 ธ.ค. 68) ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผศ.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวพิมพ์สุดา เพ็ญแสง ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ชยนันท์ สิทธิบุศย์ รักษาการนายแพทย์ทรงคุณวุฒิฯ และผู้อำนวยการกองงานคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ กรมควบคุมโรค ผู้บริหารจากกรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าวผลการตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้งจำนวน 46,260 ชิ้น มูลค่ารวม 10,871,100 บาท
การตรวจสอบดังกล่าวเป็นผลจากการบูรณาการของกรมศุลกากรร่วมกับกองสืบสวนและปราบปราม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในการเปิดตรวจตู้สินค้าตกค้างจำนวน 7 ตู้ ณ ฝ่ายของกลางและของตกค้าง สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ พบการซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งหลากหลายกลิ่นปะปนกับสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งจัดเป็นของต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2557
ผศ.อัครนันท์ อริยศรีพงษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องเยาวชนจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งกำลังแพร่ระบาดและก่อผลกระทบต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน โดยบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่สินค้าปลอดภัย แต่เป็นภัยเงียบที่อาจทำลายอนาคตของเยาวชนไทย
กระทรวงสาธารณสุขขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันดำเนินการตรวจยึดและปราบปรามอย่างจริงจัง พร้อมเดินหน้านโยบาย “ประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้าต้องเป็นศูนย์ (Zero E-cig)” โดยมุ่งเน้นการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ”
การตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งของหลายภาคส่วนในการป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้าม และการปกป้องสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยังคงดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยปลอดจากบุหรี่ไฟฟ้า และสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับเยาวชนไทยต่อไป
*******************************
ข้อมูล : กลุ่มภาคีเครือข่ายและสื่อสารสาธารณะ
วันที่ 12 ธันวาคม 2568
