กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนในช่วงฝนตก ถนนอาจเปียกลื่น มีน้ำขัง และทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ พร้อมแนะ 7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัย เน้นลดความเร็ว หลีกเลี่ยงการแซง และประเมินสถานการณ์ก่อนขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขัง
วันนี้ (1 สิงหาคม 2563) นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนที่ขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนในช่วงฝนตก ควรเพิ่มความระมัดระวัง โดยการตรวจสอบสถาพรถให้พร้อมใช้งาน เช่น ที่ปัดน้ำฝน หรือระบบไฟฟ้า และควรลดความเร็วลง ซึ่งในช่วงที่ฝนตกใน 10 นาทีแรก เป็นช่วงที่รถมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบน้ำมันและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้เกิดเป็นเสมือนแผ่นฟิล์มอยู่บนผิวถนน ซึ่งอาจส่งผลให้รถลื่นและเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ขอแนะนำผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ 7 วิธีขับขี่ให้ปลอดภัยในช่วงฝนตกและน้ำท่วมขัง ดังนี้ 1.เปิดไฟหน้ารถเสมอ โดยเปิดไฟต่ำ เพื่อช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้น และให้รถคันอื่นมองเห็นรถของเราได้จากระยะไกล 2.เปิดใบปัดน้ำฝน โดยปรับระดับความเร็วของใบปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับความแรงและปริมาณของฝนที่ตกลงมา 3.ลดความเร็ว ใช้ความเร็วที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ 4.ให้ทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้า เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น ต้องใช้ระยะทางในการหยุดรถเพิ่มขึ้น 5.หลีกเลี่ยงการแซง แต่หากจำเป็นควรประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อนแซง 6.รถลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดหมุนในทันที เพราะอาจทำให้รถพลิกคว่ำได้ ควรลดความเร็ว ใช้เกียร์ต่ำ จนกว่ารถจะทรงตัวได้ แล้วจึงค่อยเหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ และ 7.เมื่อต้องขับรถผ่านน้ำท่วมขัง ให้หยุดประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกสูงกว่าขอบประตูรถ ไม่ควรขับฝ่าไป ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669
นอกจากนี้ การขับขี่ยานพาหนะขณะที่ฝนตก อาจมีต้นไม้หักโค่นหรือมีสิ่งของมากีดขวางการจราจรบนถนน ผู้ขับขี่ควรลดความเร็วลงหรือหยุดรถในที่ปลอดภัย ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง หรือป้ายโฆษณาต่างๆ เพราะอาจเกิดการหักโค่นหรือหล่นทับ ทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
***********************************
ข้อมูลจาก : กองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค
วันที่ 1 สิงหาคม 2563