กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยการพยากรณ์ตามหลักระบาดวิทยา คาดว่าผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกในปีนี้ อาจมีการระบาดอีกครั้ง ซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2565 เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน ถึง 5.4 เท่า แนะประชาชนกำจัดยุงลายอย่างถูกวิธีโดยเน้นที่ต้นเหตุของปัญหาคือการจัดการสิ่งแวดล้อมและกำจัดลูกน้ำไม่ให้ยุงเกิด พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้ยุงกัด และหากมีอาการป่วยไข้ ไม่ควรซื้อยาลดไข้ในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) มารับประทานเองทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น และรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
วันนี้ (26 พฤษภาคม 2566) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยพบรายงานผู้ป่วยโรคติดต่อนำโดยยุงลายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคไข้เลือดออก ข้อมูลจากรายงานในปี 2566 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสัปดาห์ที่ 19 ของปี พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสะสม 15,399 ราย ซึ่งมากกว่าปี 2565 เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกัน พบผู้ป่วย 2,942 ราย มากกว่าถึง 5.4 เท่า อีกทั้งยังพบผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยโรคไข้เลือดออกยืนยันแล้วถึง 13 ราย พื้นที่ระบาด 5 จังหวัดแรกที่พบผู้ป่วยสูงสุดคือ น่าน ตราด ชุมพร จันทบุรี และตาก ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวที่ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ และเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ของกรมควบคุมโรค จะมีอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และดำเนินการไปพร้อมกับหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ระบาด เพื่อระดมสรรพกำลังและทรัพยากรจากส่วนอื่นๆ เข้ามาจัดการป้องกันควบคุมโรคให้เกิดประสิทธิผลให้ได้มากที่สุด
และเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ผ่านมา นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (EOC) กรมควบคุมโรค โดยท่านอธิบดีกรมควบคุมโรคในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้มอบข้อสั่งการเพื่อเร่งรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน ดำเนินการร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งเป็นผู้ดูแลกำกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กว่าล้านคน จะช่วยเป็นแรงผลักดันให้ประชาชนร่วมมือกันกำจัดลูกน้ำยุงลายให้หมดไปจากพื้นที่ตนเอง และจากข้อมูลการสำรวจดัชนีลูกน้ำยุงลายของกองโรคติดต่อนำโดยแมลง ที่สำรวจลูกน้ำยุงลายในภาชนะน้ำขังตามสถานที่ต่างๆ พบว่าวัดยังเป็นสถานที่ที่พบลูกน้ำสูงสุด (ร้อยละ 64.6) รองลงมาคือโรงเรียน (ร้อยละ 55.1) สถานที่ราชการและโรงงานพบมากเป็นลำดับถัดมา ความสำคัญคือวัดเป็นสถานที่มีประชาชนเข้ามาทำบุญมากมาย อาจเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคเป็นอย่างมาก และโรงเรียนคือสถานที่ที่มีกลุ่มเสี่ยงคือเด็กนักเรียนกลุ่มวัย 5 ปีขึ้นไป ซึ่งจากสถิติเป็นกลุ่มที่มีรายงานการป่วยมากที่สุด
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้คือช่วงฤดูฝนที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศการเข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 และมีข่าวพายุลมฝนเกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งทุกปี จะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงสุด สืบเนื่องจากน้ำฝนที่ตกลงมาจะไปเพิ่มปริมาณแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในสถานที่ต่างๆ มากขึ้น การป้องกันควบคุมโรคให้ประสบผลสำเร็จจะต้องมีมาตรการทั้งในมิติของคน เชื้อโรค ยุงพาหะ และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยใช้หลายๆ วิธีการร่วมกัน เช่น การลดแหล่งเพาะพันธุ์โดยการจัดการสิ่งแวดล้อม การกำจัดลูกน้ำยุง การป้องกันไม่ให้ยุงกัด การใช้สารเคมีในการกำจัดยุง โดยเฉพาะในกรณีเกิดการระบาดของโรค และฝากถึงประชาชนว่าหากมีอาการป่วยหรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ซื้อยารับประทานเองโดยเฉพาะยาในกลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน ไดโครฟีแนก แอสไพริน รวมถึงยาชุด ซึ่งมีผลทำให้เลือดออกในทางเดินอาหารได้ง่าย และยากต่อการรักษา ทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
นายแพทย์รัฐพงษ์ บุรีวงษ์ ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ มีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกของประเทศไทยให้ไม่เกินค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี ภายในเดือนมิถุนายนและตลอดช่วงฤดูฝน (มิ.ย. - ส.ค.) และลดอัตราป่วยตายให้ไม่เกินร้อยละ 0.10 ในปี 2566 โดยใช้กลยุทธ์การติดตามกำกับและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในทุกจังหวัดของประเทศไทย สอบสวนแหล่งแพร่โรคและควบคุมโรคในจังหวัดที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออก สื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์เรื่องโรคไข้เลือดออกด้วยสื่อที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย กำหนดให้มีภารกิจด้านต่างๆ คาดหวังให้มีการขับเคลื่อนระบบการจัดการทั้งด้านบนและในฐานพื้นที่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค 1422
************************
ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อนำโดยแมลง/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 26 พฤษภาคม 2566