วันนี้ 27 พฤศจิกายน 2567  ณ โรงแรมแกรนด์ เอสทิน พญาไท กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายแพทย์นิติ เหตานุรักษ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของการสนับสนุนจาก PEPFAR ในประเทศไทย โดยมี Mr. Michael Ronning, Mission Director, USAID Regional Development Mission for Asia นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ Ms. Brigitte Quenum, Regional Adviser, UNAIDS Regional Office, Asia Pacific Ms. Jennifer Erie, Regional Director, Regional HIV Advisor, USAID/RDMA ดร. พัชรา เบญจรัตนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ผู้แทนจาก PEPFAR Thailand และองค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย

          นายแพทย์ภาณุมาศ กล่าวว่า ในนามกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขขอแสดงความยินดีและภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของการสนับสนุนจาก PEPFAR ในประเทศไทยถือเป็นความร่วมมือสำคัญที่สุดในการส่งเสริมความเข้มแข็งและขับเคลื่อนงานด้านเอชไอวี/เอดส์ในประเทศไทยซึ่ง PEPFAR ได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อมุ่งหวังให้ประเทศไทยสามารถต่อสู้กับปัญหาเอชไอวี ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

          ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับประโยชน์จากความมุ่งมั่นและทรัพยากรของ PEPFAR ไม่เพียงช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากเอดส์ ลดการตีตราและเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากเอชไอวีและเพศภาวะเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทย และส่งเสริมระบบบริการสุขภาพที่ครอบคลุมรวมถึงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสาธารณสุขของประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นช่วงตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เช่น การสนับสนุนการเข้าถึงยาต้านไวรัสที่ครอบคลุม การลดการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกอย่างมีประสิทธิภาพ การขยายการใช้มาตรการป้องกัน เช่น เพร็พ (PrEP) นำร่องในชุมชน เป็นต้น  PEPFAR ถือเป็นพันธมิตรสำคัญในการให้สนับสนุนทั้งด้านการเงิน ทรัพยากร บุคลากร เพื่อร่วมดำเนินงานแก้ไขปัญหาเอชไอวี/เอดส์ในประเทศไทยและยังคงดำเนินต่อไป เพื่อสร้างอนาคตที่ทุกคนในสังคมไทยมีสุขภาพดี ปราศจากเอชไอวี ปราศจากการตีตราและเลือกปฏิบัติ ให้ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม และเคารพสิทธิมนุษยชนบนพื้นฐานของศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์นำไปสู่การยุติเอดส์ได้ภายใน 6 ปีข้างหน้า

 

---