สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรคเร่งดำเนินงานดูแลสุขภาพประชาชนในศูนย์พักพิงชายแดนไทย–กัมพูชา เน้นเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง

       กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยได้ดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค

       วานนี้ (23 ธันวาคม 2568) นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หน่วยบริการสาธารณสุขในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามและดูแลสถานการณ์สุขภาพภายในศูนย์พักพิงอย่างใกล้ชิด โดยเน้นการเฝ้าระวังโรคติดต่อที่อาจพบได้ในพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อไวรัส RSV พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านการดูแลสุขภาพแก่ประชาชนอย่างสม่ำเสมอ

       นายแพทย์มณเฑียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวันที่ 22–23 ธันวาคม 2568 กรมควบคุมโรคได้ดำเนินงานเชิงรุกในหลายจังหวัดตามแนวชายแดน โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 และ 10 ได้ส่งทีมเฝ้าระวังและทีมสอบสวนควบคุมโรค (SRRT) ลงพื้นที่ศูนย์พักพิงในจังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และสุรินทร์เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านโรคและภัยสุขภาพ รวมถึงติดตามเฝ้าระวังโรคในศูนย์พักพิงอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ ได้ดำเนินการสื่อสารความเสี่ยงและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในศูนย์พักพิง ครอบคลุมแนวทางการปฏิบัติตนในศูนย์พักพิง 5 กลุ่มโรคที่ต้องเฝ้าระวัง การดูแลสุขภาพตนเอง การเฝ้าระวังอาการป่วย ตลอดจนการป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ โดยเน้นการบริโภคอาหาร “สุก ร้อน สะอาด” ไม่กักตุนอาหาร และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่วางไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยังให้ความสำคัญกับการดูแลด้านสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมภายในศูนย์พักพิง เช่น การประเมินความสะอาดของพื้นที่ประกอบอาหาร การดูแลน้ำดื่ม น้ำใช้ ห้องน้ำ การจัดการขยะ และการควบคุมพาหะนำโรคอย่างยุงและแมลง

       ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคขอความร่วมมือประชาชนในศูนย์พักพิงและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากมีอาการเจ็บป่วย ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่หรือเข้ารับการตรวจรักษาทันที เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรค หากประชาชนมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

*************************************
ข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค
วันที่ 24 ธันวาคม 2568


ข่าวสารอื่นๆ