สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค ร่วมกับเครือข่าย เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า และโรคไข้หวัดนก ทั้งภาคสุขภาพคน สัตว์ และสัตว์ป่า

          กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียว จัดประชุมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าและโรคไข้หวัดนก ทั้งภาคสุขภาพคน สัตว์ และสัตว์ป่า พร้อมเดินหน้า 4 นโยบายในการป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายให้ไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอินโดจีน ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน “Farmer”    เพื่อเฝ้าระวังโรคผ่าน Mr.ไข้หวัดนก ของแต่ละจังหวัด   

            วันนี้ (25 พฤศจิกายน 2563) ที่โรงแรมริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี  นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้โครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า” ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และโรคไข้หวัดนก ทั้งภาคสุขภาพคน สัตว์ และสัตว์ป่า โดยมีนายสัตวแพทย์ชัยวัฒน์ โยธคล รองอธิบดีกรมปศุสัตว์  และนายธวัชชัย เลี้ยงประเสริฐ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมในพิธีเปิดการประชุมครั้งนี้ด้วย

            นายแพทย์โอภาส กล่าวว่าการดำเนินโครงการ “สัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า”ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ด้วยพระปณิธานอันมุ่งมั่นที่ทรงงานหนัก ประกอบกับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทำให้ปี 2563 นี้ไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าเพียง 3 ราย และสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ก็มีแนวโน้มลดลง โดยสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในไทย ตั้งแต่ปี 2560-2562 พบผู้เสียชีวิต 11, 18 และ 3 ราย ตามลำดับ และปี 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.–20 พ.ย. 63 พบผู้เสียชีวิต 3 ราย จาก 3 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว หนองคาย และศรีสะเกษ ซึ่งผู้เสียชีวิตทุกราย มีประวัติถูกสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้กัดหรือข่วน โดยไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีน

          นอกจากนี้ มีการตรวจพบสัตว์ติดเชื้อทั้งสิ้น 206 ตัวอย่าง (คิดเป็นร้อยละ 3.16 ของตัวอย่างที่ส่งตรวจทั้งหมด) เป็นสัตว์ที่มีเจ้าของ 35% และไม่มีเจ้าของ 38.35% ขณะที่บางพื้นที่ไม่พบการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์ต่อเนื่องมามากกว่า 2 ปี ดังนั้น ทิศทางของการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในระยะต่อไป จึงควรให้พื้นที่ที่ไม่พบโรคมีการประเมินและรับรองเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า ส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ไปสู่พื้นที่ที่ยังพบการระบาดของโรค เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการเป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขต่อไป

          สำหรับนโยบายของกรมควบคุมโรค มี 4 ข้อ ดังนี้ 1.เร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ผู้สัมผัสโรคทุกคน 2.สนับสนุนให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคล่วงหน้าให้กับบุคลากรและอาสาสมัครกลุ่มเสี่ยง 3.สนับสนุนความร่วมมือตามยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ของทุกกระทรวง และ 4.ร่วมมือประเมินพื้นที่ปลอดโรค โดยร่วมกับกรมปศุสัตว์ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กำหนดหลักเกณฑ์การประเมินพื้นที่ปลอดโรคฯ เพื่อให้เทศบาลและอบต. ใช้ในการประเมินตนเอง และขอรับรองเป็นพื้นที่ปลอดโรค โดยค่อยๆเพิ่มพื้นที่ปลอดโรคจนครบทั่วประเทศ หากทำสำเร็จไทยจะเป็นประเทศแรกของภูมิภาคอินโดจีน ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ปลอดโรคอย่างเป็นทางการ

          นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก กรมควบคุมโรคได้ดำเนินการร่วมกับกรมปศุสัตว์มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว มีการประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคไข้หวัดนกให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขและประชาชนอย่างทั่วถึง ให้คำแนะนำผู้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยหรือสัตว์ปีกติดเชื้อ และพิจารณาซ้อมแผนเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินกรณีเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนกระดับจังหวัดและชายแดน รวมถึงการคิดค้นและพัฒนาแอปพลิเคชัน “Farmer” เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเฝ้าระวังโรคผ่าน “Mr.ไข้หวัดนก” ของแต่ละจังหวัดเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก ถึงแม้ว่าจะไม่พบโรคนี้ในประเทศมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่โรคนี้อาจกลับมาระบาดได้อีก

          โดยสถานการณ์โรคไข้หวัดนก ช่วงที่มีการระบาดในประเทศไทย ระหว่างปี 2547-2549 พบว่ามีผู้ป่วย 25 ราย เสียชีวิต 17 ราย คิดเป็นร้อยละ 68 นับเป็นอัตราป่วยตายที่ค่อนข้างสูง กรมควบคุมโรคจึงมีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ในประเทศไทยยังไม่พบผู้เสียชีวิตหลังจากปี 2549  อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการตามแนวทางและมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มข้นและต่อเนื่องต่อไป

            สำหรับการประชุมครั้งนี้ กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเครือข่ายสุขภาพหนึ่งเดียว เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคและการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่เครือข่ายสาธารณสุข ปศุสัตว์ และท้องถิ่น รวมทั้งส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า และการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมรวม 260 คน ประกอบด้วย แพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข ผู้รับผิดชอบงานโรคพิษสุนัขบ้า และผู้รับผิดชอบงานโรคไข้หวัดนก จากหน่วยงานกรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมทั้งภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

***********************************  

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563


ข่าวสารอื่นๆ