สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ เปิดสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศฯ แห่งใหม่ ณ กรมควบคุมโรค จ.นนทบุรี เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศและการป้องกันดูแลสุขภาพ

         

          กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เปิดสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติแห่งใหม่ของจังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ ณ กรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นหนึ่งใน 73 สถานีใน 42 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศและการป้องกันดูแลสุขภาพ โดยจะแสดงผลในแอปพลิเคชัน “Air4Thai” และเว็บไซต์ www.air4thai.com

          วันนี้ (26 มกราคม 2564)ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ร่วมเปิดสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติแห่งใหม่ของจังหวัดนนทบุรี ที่ตั้งอยู่ ณ กรมควบคุมโรค ทดแทนสถานีเดิมในอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี  เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนทั้งในมิติของสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและการป้องกันดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเป็นจุดตรวจวัดที่จะไปแสดงผลในแอปพลิเคชัน “Air4Thai” และเว็บไซต์ www.air4thai.com ชื่อว่า สถานีตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นข้อมูลในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และเตือนภัยอีกหนึ่งจุดที่สำคัญของจังหวัดนนทบุรี 

           นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่พบว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในบางพื้นที่สูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง  ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และกรมควบคุมมลพิษ ได้ให้ความสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน และได้ร่วมกันดำเนินการในมาตรการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพดังกล่าว  

          โดยในวันนี้ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมกันเปิดสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบอัตโนมัติแห่งใหม่ของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเครื่องตรวจวัดฯ นี้ จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะช่วยแจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดนนทบุรีได้ทราบว่าสภาพอากาศในพื้นที่เป็นอย่างไร ซึ่งการแจ้งเตือนภัยนี้เป็นอีกมาตรการที่สำคัญ โดยกรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนระดับมลพิษในอากาศเมื่อพบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นและมีผลต่อสุขภาพ ทางกรมควบคุมโรค เตือนภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่เสียง เพื่อให้มีการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมและทันเวลา ก่อนที่จะเกิดการเจ็บป่วย ซึ่งกลุ่มเสี่ยงมี 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.เสี่ยงเพราะอายุ คืออายุน้อยหรืออายุมาก ทำให้ความสามารถของร่างกายในการจัดการฝุ่นน้อยกว่าคนทั่วไป และ 2.เสี่ยงเพราะมีปัญหาสุขภาพ เมื่อได้รับฝุ่นจะเสี่ยงมีอาการรุนแรงได้ เช่น ผู้ป่วยภูมิแพ้ ผู้ป่วยโรคปอดเรื้อรัง ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นต้น  

          ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศฯ แห่งใหม่นี้ เป็นหนึ่งใน 73 สถานีใน 42 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งอยู่ในพื้นที่กระทรวงสาธารณสุข และเป็นพื้นที่ของกรมควบคุมโรค ซึ่งเป็นหน่วยงานพันธมิตรของกรมควบคุมมลพิษ ในการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ โดยในวันนี้เป็นโอกาสดีที่ทั้ง 2 หน่วยงานจะใช้สถานีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้น มุ่งสู่การลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อย่างจริงจัง และปกป้องทั้งสภาพแวดล้อมและสุขภาพประชาชนต่อไป

           ซึ่งกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นมี 3 กิจกรรมหลัก คือ 1.การเผาในที่โล่ง เช่น เผาขยะ เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ข้าว ข้าวโพด อ้อย 2.การใช้งานยานพาหนะบนท้องถนน และ 3.อุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ซึ่งการตรวจวัดจากสถานีต่างๆ จะเห็นว่าพื้นที่ที่มีความเข้มข้นของฝุ่นสูงเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมทั้งสามนี้หรืออย่างน้อยหนึ่งในสามนี้อย่างหนาแน่น            ส่วนมาตรการในการลดฝุ่นที่หน่วยงานภาครัฐได้ดำเนินการมาแล้วนั้น มีทั้งมาตรการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับรถควันดำ เป็นต้น การขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ลดมลพิษ เช่น การ Work From Home พิจารณาปิดโรงเรียน งดเผาในที่โล่ง และลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล เป็นต้น  ทั้งนี้ ขอแนะนำประชาชนว่าถ้าไม่จำเป็นไม่ควรออกนอกบ้านหรือทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงที่มีค่าฝุ่นสูง หากจำเป็นก่อนออกจากบ้านทุกครั้งควรตรวจสอบค่าฝุ่นที่แอปพลิเคชัน Air4Thai    เพื่อประเมินความเสี่ยงและหาวิธีป้องกันการสัมผัสฝุ่นที่เหมาะสม

 

***************************

ข้อมูลจาก : กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค /

กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ

 วันที่ 26 มกราคม 2564


ข่าวสารอื่นๆ