สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค พยากรณ์โรคฯ ฉบับที่ 21/2565 "เตือนประชาชนในช่วงนี้มีฝนตกและเกิดน้ำท่วมขังบางพื้นที่ หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลน ป้องกันโรคไข้ฉี่หนู"

กรมควบคุมโรค ขอเผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์”

ฉบับที่ 21/2565 ประจำสัปดาห์ที่ 22 (วันที่ 29 พ.ค. – 4 มิ.ย. 65)

 

          “จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์ของโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคไข้ฉี่หนู ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 22 พฤษภาคม 2565 พบผู้ป่วย 356 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 45-54 ปี (18.82%) รองลงมา คือ 55-64 ปี (16.57%) และอายุ 35-44 ปี (16.01%) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร และอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ระนอง แม่ฮ่องสอน พังงา พัทลุง และสงขลา”

          “การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคไข้ฉี่หนูเพิ่มขึ้นได้ จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2565 จะมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้สภาพพื้นดินเปียกชื้นหรือน้ำท่วมขังบางพื้นที่ เนื่องจากเชื้อก่อโรคซึ่งพบอยู่ในปัสสาวะของหนูรวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เช่น สุนัข แมว โค แพะ แกะ มักจะปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำขัง พื้นดินที่เปียกชื้น ทำให้ประชาชนอาจได้รับเชื้อโรคดังกล่าวจากการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานานได้ โดยเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผล รอยขีดข่วน รอยถลอกตามผิวหนัง เยื่อบุตา จมูก ปาก หรือการไชเข้าทางผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังอาจติดต่อได้จากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปนเปื้อน กรมควบคุมโรค ขอแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคไข้ฉี่หนู ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำหรือทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำลด ควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงมือยาง และกรณีมีบาดแผลควรปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้แผลสัมผัสน้ำโดยตรง  2.หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ พร้อมทั้งอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ  3.หมั่นทำความสะอาดบ้านเรือนและสิ่งแวดล้อมบริเวณบ้านให้สะอาดไม่มีหนูชุกชุม และ 4.รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ล้างผัก ผลไม้ ให้สะอาดก่อนนำมารับประทาน  ทั้งนี้ หากมีอาการป่วยด้วยไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ หนาวสั่น ตาแดง ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422”

      

*******************************************************

ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 31 พฤษภาคม 2565


ข่าวสารอื่นๆ