สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ
Responsive image

กรมควบคุมโรค พยากรณ์โรคฯ ฉบับที่ 32/2565 "เตือนประชาชนในช่วงนี้ระวังภัยจากฝนตกหนักและโรคติดต่อที่มากับน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก"

กรมควบคุมโรค ขอเผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์”

ฉบับที่ 32/2565 ประจำสัปดาห์ที่ 34 (วันที่ 21 – 27 ส.ค. 65)

 

          “จากข้อมูลการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค  รายงานสถานการณ์สาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีเหตุการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลากท่วมขัง ระหว่างวันที่ 15 - 17 สิงหาคม 2565 ในพื้นที่ 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร ตาก นครสวรรค์ มหาสารคาม ขอนแก่น ศรีสะเกษ ชัยภูมิ ปราจีนบุรี สระแก้ว การพยากรณ์อากาศคาดว่า ยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ช่วงวันที่ 20 - 23 สิงหาคม 2565 ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม”

          “การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสพบโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่

     1) การบาดเจ็บจากอุทกภัย เช่น พลัดตกน้ำ จมน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำหรือจับปลาบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง น้ำเชี่ยว หากจําเป็นต้องทํากิจกรรมทางน้ำควรเตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้พร้อม เช่น เสื้อชูชีพ ห่วงยาง หรืออุปกรณอื่นๆ ที่ช่วยในการลอยตัว  ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ อยู่ตามลำพัง ควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดและอยู่ห่างจากแหล่งน้ำ    

     2) อันตรายจากกระแสไฟฟ้า ป้องกันได้โดยการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันไฟรั่ว ไม่สัมผัสเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะร่างกายเปียกชื้น

     3) โรคติดต่อ เช่น โรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วง โรคไข้ฉี่หนู โรคตาแดง สามารถป้องกันโดย การกินอาหารปรุงสุก สะอาด ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนกินอาหารและหลังการขับถ่าย หลีกเลี่ยงการขับถ่ายลงในแหล่งน้ำ ให้ขับถ่ายลงในถุงดำ โรยปูนขาว มัดให้แน่น และส่งกำจัดต่อไป           

     กรมควบคุมโรค ขอแนะนำหากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำเป็นเวลานาน ควรใส่รองเท้าบู๊ททุกครั้ง รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทันที หรือหากน้ำที่ท่วมขังกระเด็นเข้าตาหรือมีฝุ่นละอองเข้าไปในตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าและดวงตาให้สะอาด เมื่อมีอาการป่วยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422”

     

*******************************************************

ข้อมูลจาก : ทีม SAT / สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

วันที่ 24 สิงหาคม 2565


ข่าวสารอื่นๆ