สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น
Responsive image

แพทย์แนะมาตรการควบคุมโรคอาหารเป็นพิษในโรงเรียน เน้นย้ำอนามัยส่วนบุคคล ผู้ปรุง ประกอบอาหารเป็นสิ่งสำคัญ

แพทย์แนะมาตรการควบคุมโรคอาหารเป็นพิษในโรงเรียน เน้นย้ำอนามัยส่วนบุคคล ผู้ปรุง ประกอบอาหารเป็นสิ่งสำคัญ

 

          สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น แนะสถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอาหารเป็นพิษในโรงเรียน หลังพบอุบัติการณ์อาหารเป็นพิษในกลุ่มเด็กวัยเรียน เน้นย้ำหลักการอาหารปลอดภัย เน้นที่ผู้ปรุงอาหาร ประกอบอาหาร และผู้สัมผัสกับอาหารในทุกขั้นตอน หากดูแลความสะอาด ใส่ใจอนามัยส่วนบุคคลและปลูกฝังให้เด็กๆ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันได้

 
           วันนี้ (16 ตุลาคม 2563) นายแพทย์ธีรวัฒน์   วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วงในสถานศึกษา ที่มีสาเหตุจากการรับประทานอาหารมีการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ กระทั่งเกิดอาการท้องเสียในกลุ่มเด็กนักเรียนพบได้ในทุกระดับชั้นได้แก่ ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สามารถป้องกันได้

          สำหรับโรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งสิ่งปนเปื้อนที่เป็นสาเหตุมีอยู่หลายชนิด ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต หรือการปนเปื้อนสารพิษต่างๆ เป็นต้น แต่สาเหตุของอาหารเป็นพิษที่พบได้บ่อยครั้งคือ จากเชื้อแบคทีเรีย รองลงมาคือ ไวรัส นอกนั้นพบได้บ้างประปราย     ทั้งนี้ อุบัติการณ์ของโรคอาหารเป็นพิษส่วนใหญ่มักเกิดในสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน เช่น ในโรงเรียน สถานศึกษา หรือสถานเลี้ยงเด็ก ค่ายกิจกรรม กิจกรรมทัศนศึกษา  ดังนั้นจึงขอเน้นย้ำ ให้มีการใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคอาหารเป็นพิษที่ผู้เกี่ยวข้องกับสถานศึกษาทุกระดับนำไปปฏิบัติได้ ดังนี้ 1.จัดระบบโรงอาหารในโรงเรียน ให้ผู้ประกอบการดำเนินตามมาตรฐานการสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัด 2.มีการตรวจรับนมโรงเรียนตามเกณฑ์ คำนึงถึงความปลอดภัยในการเก็บรักษานมอย่างถูกวิธี ให้มีคุณภาพดีก่อนแจกจ่าย 3.มีการควบคุมดูแลผู้ทำหน้าที่ในการปรุง ประกอบอาหารหรือสัมผัสกับอาหารต้องยึดหลักสุขาภิบาลอาหารอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล  4.ผู้ปรุงประกอบอาหารควรเลือกใช้วัตถุดิบจากร้านค้าที่สะอาดได้มาตรฐาน 5.วัตถุดิบและอุปกรณ์ปรุงประกอบอาหาร ต้องล้างให้สะอาดก่อนนำมาใช้งาน 6.ปรุงอาหารด้วยความร้อนให้ทั่วถึง   7.เมื่อปรุงอาหารเสร็จแล้วต้องเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด 8. อาหารที่ใส่กล่องไม่ควรราดบนข้าวโดยตรง ควรแยกบรรจุกับข้าวในถุงพลาสติกต่างหาก และ 9. สถานศึกษาควรมีความพร้อมในการดูแลรักษาเบื้องต้น ทั้งการประสานส่งต่อผู้ป่วย ตลอดจนความพร้อมในการสื่อสารความเสี่ยงเมื่อพบนักเรียนป่วยหรือเกิดเหตุการณ์ระบาดในโรงเรียนเพื่อลดผลกระทบหรือความรุนแรงจากโรคอาหารเป็นพิษ
           “รายการอาหารหรือเมนูอาหารที่มีความเสี่ยง และทำให้ให้ผู้บริโภคมีการเจ็บป่วยเป็นโรคอาหารเป็นพิษ โรคอุจจาระร่วงเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้จากข้อมูลการสอบสวนโรคของกระทรวงสาธารณสุข ที่พบได้บ่อย  ได้แก่ น้ำ/น้ำแข็ง ที่ไม่สะอาดมีการปนเปื้อนเชื้อ  ข้าวมันไก่  ไข่พะโล้  อาหารประเภทยำ อาหารที่มีกะทิ ข้าวผัด ส้มตำ ขนมจีนน้ำยา ที่สำคัญอาหารในเมนูที่กล่าวมามักปรุงไว้นานเกิน 4 ชั่วโมง ซึ่งจะเริ่มบูด เสีย เมื่อนำมาแจกจ่ายหรือรับประทาน จึงเป็นสาเหตุของโรค  ข้อแนะนำสำหรับการดูแลผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษในเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำละลายผงน้ำตาลเกลือแร่ (โอ อาร์ เอส) เพื่อป้องกันการขาดน้ำ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น ยังมีอาการถ่ายเหลวต่อเนื่องหรืออุจจาระเป็นมูกปนเลือด ให้รีบส่งตัวไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้าน และขอเน้นย้ำเรื่องการดูแลความสะอาด ใส่ใจอนามัยส่วนบุคคล กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ จะช่วยลดปัญหาได้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422”

*******************************************************
ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
เผยแพร่ : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7จังหวัดขอนแก่น

ศูนย์รับข้อร้องเรียนสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น

หมายเลข ๐๔๓-๒๒๒๘๑๘-๙ ต่อ ๖๑๑

https://ddc.moph.go.th/odpc7/index.php  

 

 

 


ข่าวสารอื่นๆ