สคร.7ขอนแก่น หวั่นตาแดงระบาดในพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ย้ำประชาชนลงเล่นน้ำ หาปลาอาจติดเชื้อไวรัสสาเหตุโรคตาแดง
จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคตาแดง (Conjunctivitis) ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 4 ต.ค. 64 พบผู้ป่วย 27,007 ราย และมีแนวโน้มพบผู้ป่วยตาแดงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูง แพทย์แนะประชาชนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมระมัดระวังไม่ให้น้ำเข้าดวงตา ไม่ควรให้เด็กลงเล่นน้ำ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หากมีอาการระคายเคืองตาควรปรึกษาแพทย์ และแยกสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวถึงสถานการณ์โรคตาแดง (Conjunctivitis) ตั้งแต่ 1 ม.ค. - 4 ต.ค. 64 พบผู้ป่วย 27,007 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงาน คือในช่วงอายุ 45-54 ปี รองลงมาคือช่วงอายุ 55-64 ปี และอายุมากกว่า 65 ปี โดยพบมากที่สุดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลางตามลำดับ ในกลุ่มอาชีพเกษตรกรมากที่สุด และคาดว่าในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคตาแดงเพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากโรคนี้พบมากในช่วงฤดูฝน และช่วงอุทกภัย โรคตาแดงเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุตา จากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย สามารถติดต่อกันได้ง่าย ระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นคือประมาณ 14 วัน โดยการสัมผัสกับน้ำตาหรือจากการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า โทรศัพท์มือถือ ที่เปื้อนเชื้อจากมือของผู้ป่วยแล้วมาขยี้ตา หลังผ่านไป 24-72 ชั่วโมง ผู้สัมผัสจะเริ่มมีการอักเสบของเยื่อบุตา โดยมีอาการตาแดง ระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล แสบตาเวลาถูกแสง มีขี้ตามากกว่าปกติ อาจมีเลือดออกใต้เยื่อบุตาขาวและมักเป็นสองข้าง อาการเลือดออกจะทุเลาภายใน 7-12 วัน โรคนี้สามารถหายเองได้ หากไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ แต่อาจมีอาการแทรกซ้อนทางระบบประสาทตามมาได้ จึงขอให้ประชาชนงดลงเล่นน้ำ หรือมีกิจกรรมทางน้ำ เพราะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสสาเหตุของโรคตาแดง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำสกปรกหากไม่จำเป็น หากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าดวงตา ควรใช้น้ำสะอาดล้างหน้าและล้างตาทันที ไม่อยู่ใกล้หรือคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคตาแดง แยกของใช้ส่วนตัว หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่บ่อยๆ พยายามอย่าใช้มือสัมผัสกับดวงตา หากป่วยเป็นตาแดง ควรพักผ่อนสายตา หยุดงานหรือลาโรงเรียนเพื่อลดโอกาสติดต่อไปยังผู้อื่น ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3 วันหลังจากใช้ยาแล้วหรืออาการแย่ลง มีการมองเห็น แย่ลง หรือมองภาพไม่ชัดกลัวแสงมาก แสบหรือปวดตามาก ควรรีบปรึกษาแพทย์ โรคนี้ป้องกันได้รักษาหายต้องระวังเรื่องความสะอาดของมือ และหยอดยารักษาให้ครบตามกำหนด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422”
..................................................................
ที่มา :พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพ กรมควบคุมโรค
เผยแพร่ : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงโรคและภัยสุขภาพ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น
โทร 043-222818-9 ต่อ 601
ศูนย์รับข้อร้องเรียนสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น
หมายเลข 043-222818-9 ต่อ 237
http://odpc7.ddc.moph.go.th
ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ [email protected]