จากรายงานสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ในช่วงสัปดาห์นี้ ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และยังคงมีผลกระทบต่อเนื่องจากพายุ “โนรู” ส่งผลให้เกิดให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน พื้นที่ 25 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 4,348 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย สาเหตุจากต้นไม้ล้มทับและน้ำพัดพา ประชาชนในชุมชนเมือง อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก  พื้นที่ริมลำน้ำ น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมในระดับสูง ให้ระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้า และพลัดจมน้ำจากกระแสน้ำเชี่ยว

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวเตือนประชาชนในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม น้ำไหลหลากให้ระมัดระวังอันตรายจากการจมน้ำเสียชีวิต กลุ่มเสี่ยงพบได้ทุกช่วงวัย พฤติกรรมเสี่ยงคือการออกเก็บผัก หาปลา ลงเล่นน้ำ หรือสัญจรทางน้ำ ซึ่งข้อมูลรายงานการเสียชีวิตจากการจมน้ำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบสาเหตุการเสียชีวิตได้ 4 รูปแบบ คือ 1) การพลัดตกลงไปในแหล่งน้ำจากบริเวณบ้าน ชุมชน  2) การสัญจรทางน้ำโดยเรือแบบต่าง ๆ    หรือสัญจรโดยการเดิน หรือใช้ยานพาหนะผ่านบริเวณน้ำไหลเชี่ยว 3) การจับสัตว์น้ำ เก็บพืชน้ำ เพื่อนำมาบริโภค  และ 4) การเสียชีวิตจากการร่วมปฏิบัติงานปกป้องหมู่บ้านชุมชน  ดังนั้นจึงขอฝากเตือนให้ประชาชนที่กำลังประสบกับอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ยึดหลักความปลอดภัยของกรมควบคุมโรค คือ “4 ห้าม 4 ให้” เพื่อป้องกันการจมน้ำในช่วงที่มีน้ำหลาก โดย 4 ห้าม ได้แก่  1.ห้ามลงเล่นน้ำ  2.ห้ามหาปลา เก็บผัก   3.ห้ามดื่มสุรา และ 4.สัญจรผ่านบริเวณที่น้ำไหลเชี่ยว  4 ให้ ได้แก่ 1.ให้อพยพไปอยู่ที่สูงตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ 2.ให้สวมเสื้อชูชีพ (หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วยขณะต้องลงน้ำหรือต้องสัญจรทางน้ำ เช่น ถังแกลลอน ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา ห่วงยาง ) ที่ใช้พยุงเกาะลอยตัวได้ เมื่อเกิดเหตุเรือล่มหรือน้ำพัด 3.ให้เดินทางเป็นกลุ่ม เพื่อคอยดูแลซึ่งกันและกัน และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ห้ามแตะสวิทช์ไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังเสียบปลั๊ก เพราะอาจมีกระแสไฟฟ้ารั่วทำให้ไฟฟ้าดูดเสียชีวิตได้ และ 4.ให้ติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล กล่าวต่อว่า “เพื่อความปลอดภัยสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำ บริเวณที่มีน้ำหลาก ไม่ควรออกหาผักหาปลาและลงเล่นน้ำ เพราะเสี่ยงต่อการถูกกระแสน้ำพัด หรือตกลงไปในบริเวณที่มีน้ำลึกได้  หรือหากจำเป็นต้องออกไปในบริเวณที่มีน้ำท่วม ควรไปเป็นกลุ่ม ไม่นำเด็กไปด้วย ควรมีอุปกรณ์ชูชีพติดตัวไปด้วย เช่น ลูกมะพร้าว, ถังแกลลอนเปล่าผูกเชือกคล้อง, ขวดน้ำพลาสติกเปล่าผูกเชือกคล้อง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ไม่ใส่เสื้อผ้าหนา หนัก อุ้มน้ำ ไม่ลงจับปลาในเวลากลางคืน หลีกเลี่ยงการลงน้ำหลังรับประทานอาหารใหม่ๆ เพราะเสี่ยงต่อการเป็นตะคริว ห้ามมิให้เด็กลงเล่นน้ำ” และ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

 

 

**************************

ข้อมูลจาก: กองโรคไม่ติดต่อ/ สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค / กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา
วันที่ 4 ตุลาคม 2565

เผยแพร่ : กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงโรคและภัยสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น

ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ [email protected]

---