กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Responsive image

กอพ.จัดบูรณาการกลไกการดำเนินงานลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ ใช้ประโยชน์ข้อมูล ระบบ CRS รับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์

วันที่ 25 – 26 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงแรม เบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ จ.นนทบุรี นางสาวจันทิมา ธนาสว่างกุล อัยการอาวุโส สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธาน ในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการบูรณาการกลไกการดำเนินงานลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ การใช้งานและใช้ประโยชน์จากข้อมูลโปรแกรมระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ เพศภาวะ และความเป็นกลุ่มประชากรเปราะบางต่อการถูกเลือกปฏิบัติ (Crisis Response System : CRS) โดยมีนางนิรมล ปัญสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและระบบข้อมูล เป็นผู้กล่าวรายงาน การอบรมฯ ครั้งนี้มีวิทยากรจากกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สำนักงานอัยการสูงสุด มูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย มูลนิธิน้ำกว๊านสีรุ้ง จังหวัดพะเยา สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และผู้เข้าร่วมการอบรม ประกอบด้วยหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ ผู้แทนจากสำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก และหน่วยงานภายนอกกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด รวมถึงหน่วยงานภาคประชาสังคม ที่ร่วมดำเนินงานในพื้นที่ที่มีกลไกการดำเนินงานคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ รวมทั้งสิ้น 88 คน ซึ่งการอบรมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการกองทุนโลก (The Global Fund)

การอบรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของการตีตราและเลือกปฏิบัติ และรูปแบบกลไกการดำเนินงานลดการตีตราและเลือกปฏิบัติ ตลอดจนการส่งเสริมคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ผ่านระบบ CRS ที่เชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม รวมถึงมีความรู้ความเข้าใจฟังก์ชั่นและขั้นตอนการใช้งานเพื่อเสริมสร้างทักษะการใช้งานระบบ CRS และสามารถนำข้อมูลรายงานไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน ติดตามการดำเนินงาน และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ทางกฎหมาย และการสื่อสารสาธารณะในพื้นที่ตนเองต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหาในการอบรมประกอบด้วยนโยบาย ยุทธศาสตร์ ความสำคัญของกลไกการดำเนินงานคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระบบ CRS รวมถึงตัวอย่างกรณีร้องเรียนและการจัดการเหตุการละเมิดสิทธิในพื้นที่เชื่อมโยงกับกลไกที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีการฝึกปฏิบัติการใช้ประโยชน์จากข้อมูลรายงานระบบ CRS การอบรมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานและเครือข่ายภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโปรแกรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน


ข่าวสารอื่นๆ