กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
Responsive image

News&Update by DAS ตรวจแทนรัก ยุติไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก

ตรวจแทนรัก ยุติไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก

วันแม่ปีนี้ กอพ.เปิดฉบับพิเศษ เอาใจคุณแม่ทุกท่าน ด้วยบทความนี้ Mothers and babies can’t wait: ตรวจแทนรัก ยุติไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก” ให้การตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี แทนความรักที่ยิ่งใหญ่ของคุณแม่ทุกคน เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อสู่ลูกน้อย  ตรวจเร็วป้องกันได้  

 

รู้หรือไม่ ?  โรคไวรัสตับอักเสบ บี สามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้

ไวรัสตับอักเสบบี สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคตับอักเสบแบบเรื้อรัง ตับแข็ง และมะเร็งตับ สามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก โดยเฉพาะแม่ที่มีปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดสูงในขณะตั้งครรภ์ 90% ของทารกที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี มีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบแบบเรื้อรังและเป็นโรคตับแข็ง หรือมะเร็งตับในอนาคต

 

4 วิธีป้องกัน การถ่ายทอดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูก 

1. ควรเข้ารับการฝากครรภ์โดยเร็วก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ซึ่งจะได้รับการคัดกรองไวรัสตับอักเสบ บี ฟรี และหากพบว่าติดเชื้อจะได้รับการรักษาฟรี

2. ให้ยาต้านไวรัสแก่หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรรัสตับอักเสบ บี และมีปริมาณไวรัสในเลือดสูง (ผลตรวจปริมาณไวรัสตับอักเสบ บี สูงตั้งแต่ 200,000 IU/ml ขึ้นไป หรือผล HBeAg เป็นบวก) ซึ่งปัจจุบันยาต้านไวรัสตับอักเสบ บี ที่ใช้เป็นยาขนานแรกสำหรับหญิงตั้งครรภ์ คือ Tenofovir disoproxil fumarate (TDF) ขนาด 300 มิลลิกรัม โดยปกติกินวันละ 1 เม็ด ตั้งแต่อายุครรภ์ 28 - 32 สัปดาห์ ไปจนถึงหลังคลอด 1 เดือน

3. ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี ในทารกแรกเกิดทุกคน และฉีดตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย

4. ฉีด Hepatitis B immunoglobulin (HBIG) ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป โดยฉีดทันทีหลังคลอด ในกรณีทารกที่คลอดจากแม่ติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ บี

 

แผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศไทย กำหนดให้วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ดังนี้

ทารกที่คลอดจากแม่ที่ติดเชื้อยังจำเป็นต้องได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี เพิ่มเติมเมื่ออายุ 1 เดือน และได้รับวัคซีนรวมที่มีองค์ประกอบของไวรัสตับอักเสบ บี ที่อายุ 2 4 และ 6 เดือน ตามกำหนดการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบ บี ในร่างกายให้มีระดับสูงและอยู่ได้ยาวนาน

ทารกต้องได้รับการติดตามและตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (ตรวจ HBsAg) และภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบ บี (ตรวจ Anti-HBs) เมื่อมีอายุ 12 เดือน เพื่อประเมินว่าทารกมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่ และมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อไวรัสแล้วหรือไม่

 

Tips for you

องค์การอนามัยโลกคาดว่าผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีทั่วโลกประมาณ 300 ล้านคน โดยเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละ 1.5 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรคตับมากกว่าปีละ 820,000 ราย จึงได้กำหนดเป้าหมาย ลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี ในเด็กอายุต่ำกว่าหรือเท่ากับ 5 ปี ให้เหลือ ≤ 0.1% และลดอัตราการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี จากแม่สู่ลูกให้เหลือ ≤ 2% ภายในปี พ.ศ. 2573

 


ข่าวสารอื่นๆ