เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น พลัส แวนดา แกรนด์ จังหวัดนนทบุรี นายแพทย์สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการการใช้งานและใช้ประโยชน์จากข้อมูลโปรแกรมระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ เพศภาวะ และความเป็นกลุ่มประชากรเปราะบางต่อการถูกเลือกปฏิบัติ (Crisis Response System: CRS) ทั้งนี้ เป็นการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ในรูปแบบสหวิชาชีพระดับจังหวัดและต่อเนื่องด้วยการอบรมการใช้งานและใช้ประโยชน์จากข้อมูลโปรแกรมระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ เพศภาวะ และความเป็นกลุ่มประชากรเปราะบางต่อการถูกเลือกปฏิบัติ (Crisis Response System: CRS) ในวันที่ 19 - 20 กันยายน 2567 โดยมีนางนิรมล ปัญสุวรรณ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและระบบข้อมูล เป็นผู้ชี้แจงวัตถุประสงค์การอบรมฯ การอบรมครั้งนี้มีวิทยากรจากกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมูลนิธิเพื่อสิทธิความหลากหลาย และผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานในพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการขยายกลไกปี 2567 ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด และองค์กรภาคประชาสังคม รวมผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น จำนวน 91 คน โดยการอบรมฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการกองทุนโลก (The Global Fund)
การอบรมในครั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ความเข้าใจฟังก์ชั่นและขั้นตอนการใช้งาน รวมถึงเสริมสร้างทักษะการใช้งานระบบรับเรื่องร้องเรียนและคุ้มครองการละเมิดสิทธิด้านเอดส์ เพศภาวะ และความเป็นกลุ่มประชากรเปราะบางต่อการถูกเลือกปฏิบัติ (Crisis Response System: CRS) และสามารถนำข้อมูลรายงานไปใช้ประโยชน์ในการวางแผน ติดตามการดำเนินงาน และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายหรือทางกฎหมายในพื้นที่ตนเองต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหาในการอบรมประกอบด้วยการบรรยายเกี่ยวกับที่มาของการพัฒนาระบบ สถานการณ์การละเมิดสิทธิจากข้อมูลรายงานในระบบ การสอนใช้งานโปรแกรม อีกทั้งยังมีการฝึกปฏิบัติการใช้โปรแกรม ตั้งแต่การลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ การแจ้งเหตุ การจัดการเหตุ และการเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลรายงาน การอบรมครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานและเครือข่ายภาคีที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐและภาคประชาสังคม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโปรแกรมร่วมกัน เพื่อให้เกิดการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน