นำเงินราชการพักในบัญชีส่วนตัวผิดวินัยอย่างร้ายแรง ??
ผู้ฟ้องคดีดำรงตำแหน่งนักวิชาการการเงินและบัญชีของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เบิกเงินจากบัญชีเงินฝากกองทุนเพื่อจ่ายให้กับนักวิจัย 2 ราย เมื่อได้รับอนุมัติให้จ่ายเงินผู้ฟ้องคดีได้โอนเงินให้รายแรกเพียงรายเดียว ส่วนรายที่สองไม่ได้โอนเงินให้ แต่กลับนำเงินไปฝากเข้าบัญชีส่วนตัวเป็นระยะเวลาถึง 56 วัน จนนักวิจัยรายที่สองทวงถาม จึงได้โอนเงินให้ในภายหลังกรณีดังกล่าวเมื่อไม่มีระเบียบกฎหมให้อำนาจเจ้าหน้าที่เก็บรักษาเงินราชการเข้าไว้ในบัญชีส่วนตัวได้ ดังนั้น การที่ผู้ฟ้องคดีนำเงินราชการฝากเข้าพักไว้ในบัญชีส่วนตัวจึงเป็นการดำเนินการนอกเหนือจากที่ระเบียบกฎหมายกำหนดแสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ฟ้องคดีมีเจตนาที่จะนำเงินไปใช้ประโยชน์ส่วนตน โดยประวิงเวลาที่จะจ่ายเงินและได้รอจนกว่าจะถูกทวงถามจึงนำเงินเข้าบัญชีให้แก่นักวิจัยรายที่สอง อันทำให้เกิดความเสียหายแก่นักวิจัยรายที่สองและทางราชการ จึงถือได้ว่าพฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 39 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร