สคร. 1 เตือนผู้ปกครอง ระวังเด็กเล็กป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ช่วงปลายฝนต้นหน้า แนะเฝ้าระวังและคัดกรองเด็กก่อนไปเรียน
แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว มักพบการระบาดของกลุ่มโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ซึ่งเชื้อนี้มักเป็นสาเหตุของการเกิดโรคปอดอักเสบรุนแรงในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ไวรัสอาร์เอสวีจะมีชีวิตอยู่ภายนอกร่างกายได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยอาศัยอยู่ตามวัตถุต่าง ๆ เช่น ของเล่น บ้านบอล และเชื้อยังแพร่กระจายได้ง่ายผ่านการไอ หรือจาม ติดต่อโดยตรงผ่านสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ทำให้มีอาการเล็กน้อยเหมือนไข้หวัด เช่น มีน้ำมูก เจ็บคอ หรือบางรายมีอาการรุนแรง ได้แก่ หายใจเร็ว หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียงหวีด หอบเหนื่อยเนื่องจากปอดอักเสบ รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง พบได้ในทุกกลุ่มอายุ หากเกิดในผู้ใหญ่หรือเด็กโตที่มีสุขภาพแข็งแรง อาการป่วยจะหายได้เอง แต่อาการจะรุนแรงในเด็กเล็กที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ เด็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด เด็กที่คลอดก่อนกำหนด อาจเกิดภาวะรุนแรง หรือเสียชีวิตได้
แพทย์หญิงเสาวนีย์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีโดยตรง แต่ใช้วิธีการรักษาตามอาการ เช่น การให้ยาลดไข้ แก้ไอละลายเสมหะ ในเด็กบางรายที่มีเสมหะเหนียวมาก ต้องทำการพ่นยาขยายหลอดลมผ่านทางออกซิเจนละอองฝอย เคาะปอด และดูดเสมหะออก จะช่วยลดความรุนแรงของอาการไอและอาการหายใจหอบเหนื่อยได้ ขอเน้นย้ำให้ประชาชน ผู้ปกครอง และผู้สูงอายุ เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังและใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ, เลี่ยงการนำมือที่ไม่สะอาดมาสัมผัสจมูก ปาก หรือตา, ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อน ส้อม, หมั่นเช็ดถูทำความสะอาดของเล่นเด็กเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังพบเด็กป่วย และเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ