แพทย์หญิงเสาวนีย์ วิบุลสันติ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นช่วงฤดูฝน ประชาชนนิยมออกไปหาเห็ดและรับประทานเห็ด ซึ่งเห็ดหลายชนิดขึ้นเองตามธรรมชาติในป่า สวน ไร่ ทั้งที่รับประทานได้และรับประทานไม่ได้ มีลักษณะคล้ายกันมากโดยเฉพาะในระยะตูม จึงเกิดความเข้าใจผิดและหากนำเห็ดพิษมารับประทานอาจเจ็บป่วยถึงขึ้นเสียชีวิตได้ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเห็ดเผาะซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและออกผลผลิตในช่วงนี้ โดยเห็ดธรรมชาติ มักจะพบมากในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน สำหรับวิธีสังเกตลักษณะของเห็ดที่ควรหลีกเลี่ยง คือ มีสีน้ำตาลหรือสีสันฉูดฉาด มีขนหรือหนามเล็กๆ บริเวณโคน มีวงแหวนใต้หมวก หมวกเห็ดมีเกล็ดปุ่มปม มีกลิ่นค่อนข้างแรงเมื่อดอกแก่ รวมถึงเห็ดที่ขึ้นใกล้มูลสัตว์หรือขึ้นในบริเวณที่มีการใช้สารเคมี

        แพทย์หญิงเสาวนีย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เห็ดบางชนิดไม่ควรรับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์เพราะจะทำให้เกิดพิษ เช่น เห็ดน้ำหมึก เห็ดบางชนิดหากรับประทานแบบดิบจะทำให้เกิดพิษ เช่น เห็ดน้ำหมาก รวมถึงความเชื่อที่ว่าต้มเห็ดรวมกับข้าวสาร หัวหอม หรือเครื่องเงิน หากไม่เปลี่ยนสีแสดงว่าเป็นเห็ดกินได้นั้นเป็นความเชื่อที่ผิด.ทั้งนี้ ผู้ที่เผลอรับประทานเห็ดพิษเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว โดยจะเกิดภายในไม่กี่นาทีแต่ไม่เกิน 4 ชั่วโมง ส่วนใหญ่หายเองได้เมื่อได้รับการรักษา แต่หากเผลอรับประทานเห็ดที่มีพิษรุนแรง จะมีอาการตับวาย ไตวาย ชักรุนแรงต่อเนื่อง หมดสติและเสียชีวิตได้ หากประชาชนไม่แน่ใจ ไม่รู้จัก หรือสงสัยว่าจะเป็นเห็ดพิษ ก็ไม่ควรเก็บหรือซื้อมาปรุงอาหาร รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดร่วมกับดื่มสุรา เพราะฤทธิ์จากแอลกอฮอล์ จะทำให้พิษเห็ดแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และทำให้อาการรุนแรงขึ้นด้วย

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

---