กองโรคติดต่อทั่วไป
Responsive image

กรมควบคุมโรค ร่วมขับเคลื่อนโครงการ SAFE ป้องกันควบคุมโรคจากสัตว์ป่าสู่คน

  ณ โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพฯ วันที่ 16 ม.ค. 2568 อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบ สพ.ญ.ดร. เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย สำนักงานคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มสุขภาพหนึ่งเดียวและความร่วมมือระหว่างประเทศ กองโรคติดต่อทั่วไป รับฟังการบรรยายและให้ข้อคิดเห็นต่อโครงการ Safety across Asia for the Global Environment (SAFE) ร่วมกับผู้แทนจากกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ในการยกระดับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนในประเทศไทยและสนับสนุนความมั่นคงทางสุขภาพในระดับสากล

  โครงการ SAFE เป็นโครงการความร่วมมือที่ริเริ่มในปี 2564 ดำเนินการในประเทศไทย สปป.ลาว มาเลเซีย และเวียดนาม โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคจากสัตว์ป่า โดยเน้นการป้องกันโรคในระดับปฐมภูมิจากแหล่งต้นกำเนิดในป่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรสหประชาชาติ ได้แก่ UNEP, UNODC, FAO และหน่วยงานภายในประเทศ เช่น กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมปศุสัตว์ องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กรมอนามัย หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมโรค

  ภายใต้โครงการ SAFE มีการดำเนินงานสำคัญหลายประการเพื่อจัดการความเสี่ยงด้านโรคติดต่อจากสัตว์ป่า อาทิ การสำรวจสถานที่ครอบครองสัตว์, สถานที่เพาะพันธุ์สัตว์ การค้าสัตว์  และการส่งออก เพื่อตรวจสอบความเสี่ยงและแนวทางจัดการปัญหา รวมถึงการทบทวนกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์, พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ และพระราชบัญญัติการสาธารณสุข เพื่อระบุช่องว่างและอุปสรรคในการบังคับใช้ ซึ่งความท้าทายสำคัญ คือ การที่ผู้ประกอบการขาดความเข้าใจในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือในบางกรณีทราบแต่ไม่ปฏิบัติตาม จึงต้องเสริมสร้างความรู้ด้านกฎหมายและสุขภาพ

  เป้าหมายในอนาคตที่กรมควบคุมโรคสามารถร่วมดำเนินการและสนับสนุนเพื่อประโยชน์ต่อการป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน และโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยเน้น

       1.  ส่งเสริมการยกระดับกรอบกฎหมายร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความชัดเจนและเสริมสร้างการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า

       2. สนับสนุนปรับปรุงมาตรการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพโดยยกระดับมาตรฐานในสถานที่ครอบครองสัตว์ป่า เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคจากสัตว์สู่คน

       3. ร่วมสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนเกี่ยวกับความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายและการป้องกันโรค

  ผลลัพธ์ของการประชุมแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาคส่วนและระหว่างประเทศในการจัดการความเสี่ยงด้านสุขภาพจากสัตว์ป่าช่วยปกป้องสุขภาพของประชาชนและป้องกันการระบาดใหญ่ในอนาคต

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

ข่าวสารอื่นๆ