สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เผย สถานการณ์โรคเมลิออยด์ หรือโรคไข้ดินในเขตสุขภาพที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 25 มิถุนายน 2568 พบผู้ป่วยโรคเมลิออยด์โดสิส หรือโรคไข้ดิน จำนวน 41 ราย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ จังหวัดชุมพร รองลงมาคือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี พังงา และนครศรีธรรมราช
แพทย์หญิงดารินดา รอซะ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า โรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยเชื้อจะอยู่ในดินและในน้ำ พบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย เชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังจากการสัมผัสกับดินหรือน้ำเป็นเวลานาน โดยไม่จำเป็นต้องมีการบาดเจ็บ หลังติดเชื้อประมาณ 1 - 21 วัน จะมีอาการเจ็บป่วย แต่บางรายอาจนานเป็นปีขึ้นอยู่กับปริมาณเชื้อที่ได้รับและภูมิต้านทานของแต่ละคน อาการของโรคนี้เริ่มแรกมักจะเป็นไข้ สามารถแสดงอาการได้หลากหลายไม่จำเพาะ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของการติดเชื้อ เช่น หากเป็นที่ผิวหนังอาจมีอาการเจ็บ บวม มีแผลเปื่อยสีออกขาวเทาและอาจเกิดเป็นหนอง หากติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายจะอักเสบ บวม โต เจ็บ อาจเกิดหนอง หากติดเชื้อที่ปอดจะมีอาการปอดอักเสบ มีฝีหนองในปอด ไอ หายใจหอบเหนื่อย ทำให้สับสนกับอาการวัณโรคหรือโรคปอดอักเสบ อาการของอวัยวะอื่นๆ ที่พบการติดเชื้อได้บ่อย เช่น ฝีในตับ ม้าม หรือต่อมลูกหมาก นอกจากนี้การอักเสบเฉพาะอวัยวะเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงอวัยวะนั้นๆ ร่วมด้วย จนทำให้ต่อมน้ำเหลืองโตคลำแล้วเจ็บและอาจเกิดเป็นหนอง ทั้งนี้การติดเชื้ออาจจำกัดอยู่ที่บริเวณดังกล่าวหรือแพร่ผ่านกระแสเลือดต่อไปก็ได้
แพทย์หญิงดารินดา กล่าวเพิ่มว่า มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรหรือผู้ที่ทำงานสัมผัสดินและน้ำโดยตรง และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ซึ่งโรคนี้พบทั่วไปในดินและแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น นาข้าว แปลงผัก สวนยาง บ่อน้ำ เป็นต้น ดังนั้นหากต้องทำงานสัมผัสกับดินและน้ำที่เปียกชื้นเป็นเวลานาน ควรสวมรองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกหุ้มรองเท้าเพื่อป้องกัน และเมื่อเสร็จภารกิจให้รีบอาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที รวมถึงดื่มน้ำสะอาดที่บรรจุภัณฑ์มาตรฐานหรือน้ำต้มสุกทุกครั้ง ทั้งนี้หากมีไข้สูง 2 วัน หายใจหอบเหนื่อย ร่วมกับมีประวัติการสัมผัสดินและน้ำให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อที่ตรวจวินิจฉัยและรักษาตามอาการและความรุนแรงของโรค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 “กรมควบคุมโรคห่วงใย อยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี”
https://www.facebook.com/share/p/1M8tT86k7i/
---------------------------------
ผู้เขียนข่าว ธัญญธร เยาวยอด
กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงโรคและภัยสุขภาพ
#กรมควบคุมโรคห่วงใยอยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดี
ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร