สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 ขอนแก่น
Responsive image

แพทย์เป็นห่วงไข้เลือดออกในกลุ่มเด็กนักเรียนหลังเปิดเทอม  ย้ำควรใช้มาตรการคุมเข้มในสถานศึกษา  

     วันนี้ (22 พฤษภาคม 2566) นายแพทย์สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น  กล่าวถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 20 พฤษภาคม 2566 มีรายงานผู้ป่วย 15,399 ราย เสียชีวิต 13 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 10-14 ปี สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 7 (จังหวัดขอนแก่น,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์,มหาสารคาม) พบรายงานผู้ป่วยสะสม จำนวน 423 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จังหวัดที่พบอัตราป่วยสูงสุดคือ จังหวัดมหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด และขอนแก่นตามลำดับ ส่วนใหญ่ที่พบเป็นเด็ก จึงขอเน้นย้ำถึงสถานศึกษา ศูนย์เด็กในชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือ ในการจัดสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็กในชุมชนมีความปลอดภัย ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอันเป็นต้นเหตุของโรคไข้เลือดออก

      นายแพทย์สมาน ฟูตระกูลได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกในโรงเรียน สถานศึกษา ศูนย์เด็ก ประการแรก คือการจัดการสิ่งแวดล้อมกำจัดขยะในห้องเรียน บริเวณอาคารเรียน โรงอาหาร อาคารกิจกรรม ห้องพักครู  ทำลายภาชนะที่อาจเป็นแหล่งน้ำขังเช่น ขยะพลาสติก โฟม ยางรถยนต์ กระถางต้นไม้เก่า สำรวจภาชนะเก็บน้ำใช้ เช่น ถัง โอ่ง แทงค์น้ำในห้องสุขา ขัดล้างทำความสะอาด และเปลี่ยนถ่ายน้ำ ใส่ทรายอะเบท และทำอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ประการที่สองคือ เฝ้าระวังอาการป่วยทั้งในกลุ่มเด็กนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่อื่นในโรงเรียน ได้แก่ แม่บ้าน คนสวน แม่ครัว นักการภารโรง หากบุคคลกลุ่มนี้มีอาการไข้เฉียบพลันและไข้สูงลอยเกินกว่า 2 วัน รวมทั้งมีผื่น หน้าแดง คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ต้องแนะนำให้รีบเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและแจ้งสถานพยาบาลของรัฐ หรือสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ทราบทันที ห้ามครูฝ่ายพยาบาลจ่ายยาแก้ปวดลดไข้ที่มีส่วนผสมของแอสไฟริน (โดยดูได้ที่ฉลากยา)  ยาลดการอักเสบในกลุ่มแก้ปวดลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ เช่น ไอบรูโปรเฟน และหากพบว่ามีเด็กนักเรียนลาป่วยเกินกว่า 2 วัน ควรติดตามสอบถามอาการจากผู้ปกครอง เพื่อพิจารณาว่าป่วยด้วยอาการของโรคไข้เลือดออกหรือไม่ และควรประชาสัมพันธ์ในชั้นเรียนย้ำในกลุ่มนักเรียนทุกระดับชั้น ให้ป้องกันการระบาดของโรคไข้เลือดออกในชุมชน  คือ 1.การป้องกันการถูกยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้ง ใช้พัดลม กำจัดยุงตัวเต็มวัยด้วยสเปรย์ ไม้ช็อตไฟฟ้า กำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะน้ำใส นิ่ง 2.การเฝ้าระวังอาการของโรค คือไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าแดง ผิวหนังเป็นจุดเลือด อาเจียน ปวดท้อง และ 3.ควรไปพบแพทย์โดยเร็วเมื่อมีไข้สูง เพื่อการวินิจฉัยโรค และเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงไข้ลดหากเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออก ต้องรีบกลับไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ทั้งนี้หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

 

*********************

ข้อมูลจาก : กองโรคติดต่อนำโดยแมลง/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค

 วันที่ 22 พฤษภาคม 2566

เผยแพร่ :  กลุ่มสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ

สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7จังหวัดขอนแก่น

ศูนย์รับข้อร้องเรียนสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่7 จ.ขอนแก่น

หมายเลข 043 222818-9 ต่อ 237


ข่าวสารอื่นๆ