สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
Responsive image

เตือนโรงแรม รีสอร์ท เฝ้าระวัง "โรคลีเจียนแนร์" ตรวจเช็คควบคุมระบบน้ำและระบบปรับอากาศให้ได้มาตรฐาน

         ในช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น สคร.9 นครราชสีมา เตือนโรงแรม รีสอร์ทรักษาความสะอาดของระบบต่างๆ ภายในที่พัก เพื่อป้องกันโรคลีเจียนแนร์ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้เข้าพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับน้ำและความชื้น เช่น ระบบระบายอากาศ ฝักบัว ก๊อกน้ำ สระน้ำ พัดลมไอน้ำ ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงโรคลีเจียนแนร์ ว่าเป็นภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบในแหล่งน้ำ ที่ไม่มีกระบวนการควบคุมคุณภาพน้ำและความชื้น เช่น ระบบระบายอากาศ ฝักบัว ก๊อกน้ำ อ่างน้ำวน อ่างน้ำร้อน สระน้ำ น้ำพุ แม้กระทั่งพัดลมไอน้ำ หรือเครื่องเพิ่มความชื้นภายในที่พักหรือสปา รวมถึงสำลักน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรัง หรือผู้สูบบุหรี่หนัก สามารถอาจทำให้เกิดอาการไม่รุนแรง หรือที่เรียกว่า ไข้ปอนเตียก (Pontiac fever) ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ และมีไข้สูง โดยทั่วไปมักพบอาการใน 2–5 วันหลังจากสัมผัสเชื้อ ส่วนรายที่มีภาวะปอดอักเสบจะมีอาการไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ การป่วยค่อนข้างรุนแรงและอาจจะทำให้การหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ยังไม่เคยพบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า โรคลีเจียนแนร์ ไม่ใช่โรคใหม่และไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย การแพร่ระบาดมักอยู่ในวงจำกัดเฉพาะผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน พร้อมมีคำแนะนำสถานประกอบการที่พักนักท่องเที่ยว และประชาชน ดังนี้

         คำแนะนำสำหรับสถานประกอบการ

1.ควบคุมดูแลระบบน้ำและระบบปรับอากาศให้ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับน้ำและความชื้น เช่น ระบบระบายอากาศ ฝักบัว ก๊อกน้ำ อ่างน้ำวน อ่างน้ำร้อน สระน้ำ น้ำพุ หรือเครื่องเพิ่มความชื้นภายในที่พักหรือสปา

2.กรณีสถานที่ หรือห้องพักปิดหรือหยุดบริการชั่วคราว ให้ทำความสะอาดด้วยคลอรีนซ็อค (คลอรีนเม็ดฟู่) เปิดระบบน้ำให้มีการไหลเวียนทุกจุด ดูแลระบบน้ำและระบบปรับอากาศอย่างถูกต้อง

3.ตรวจสอบปริมาณคลอรีนในน้ำ ไม่น้อยกว่า 0.2 ppm.

4.อุณหภูมิน้ำในระบบต้องสูงกว่า 60°C และน้ำที่ส่งออกต้องอุณหภูมิสูงกว่า 50°C

5.ทำความสะอาดแหล่งพบเชื้อด้วยสารละลายคลอรีน (เข้มข้น 10 ppm.) หรือน้ำร้อน (65°C นาน 5 นาที)

6.ประเมินความเสี่ยงจากโรคลีเจียนแนร์ โดยดำเนินการตรวจสอบระบบน้ำและระบบปรับอากาศ  ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

        คำแนะนำเพื่อป้องกันการติดเชื้อสำหรับประชาชนทั่วไป

1.ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และพักผ่อนให้เพียงพอ หากมีไข้ ไอ หายใจหอบเหนื่อย ร่วมกับมีความเสี่ยง คือ อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีโอกาสได้รับเชื้อโรคลีเจียนแนร์ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

2.ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างถูกวิธีทุก 1–2 สัปดาห์

3.หากไม่ได้ใช้งานฝักบัวหรือก๊อกน้ำต่าง ๆ เป็นเวลานาน ควรเปิดน้ำทิ้งเป็นเวลา 20 นาที

4.หมั่นทำความสะอาดหัวฉีดอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ให้อุดตัน

5.ทำความสะอาดถังน้ำในพัดลมไอน้ำทุกวันด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือผงซักฟอก น้ำที่เติมควรเป็นน้ำสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

ข่าวสารอื่นๆ