วันที่ 28 กันยายน ของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประเด็นสารในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ปีนี้ คือ  “Act Now: You, Me, Community” หรือ “รวมพลัง หยุดยั้งโรคพิษสุนัขบ้า” เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงบทบาทของตน ในการร่วมกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าอย่างจริงจัง อันจะนำไปสู่การปลอดโรคพิษสุนัขบ้าที่ยั่งยืน

     นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึง      โรคพิษสุนัขบ้าว่า เกิดจากเชื้อไวรัสเรบีส์ พบในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น สุนัข แมว โค กระบือ หนู กระรอก กระต่าย ลิง ค้างคาว ในประเทศไทยส่วนใหญ่มักพบในสุนัข รองลงมา คือ แมว และโค กระบือ โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่มีอันตรายถึงชีวิต หากถูกสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า กัด ข่วน หรือเลียบาดแผล รอยถลอก เยื่อบุตา หากไม่รีบล้างแผลแล้วฉีดวัคซีนป้องกันจะทำให้เสียชีวิตทุกราย

      จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ โดยกรมปศุสัตว์ ปี 2568 ณ วันที่ 20 กันยายน 2568 พบว่าประเทศไทย พบโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์แล้ว  204 ตัว กระจายอยู่ในประเทศไทย  โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ และจากการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้าในคนของกรมควบคุมโรค พบว่า    ในประเทศไทย  มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน  7 ราย ซึ่งมีสาเหตุการเสียชีวิตหลักมาจาก การไม่ไปพบแพทย์ และไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหลังสัมผัสโรค

      นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า  ในวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีนี้ มีประเด็นในการรณรงค์          คือ  “Act Now: You, Me, Community”  หรือ  “รวมพลัง หยุดยั้งโรคพิษสุนัขบ้า” เป็นการเรียกร้องให้ประชาชนทุกคน ตระหนักถึงบทบาทของตนในการร่วมกันกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าอย่างจริงจัง อันจะนำไปสู่การปลอดโรคพิษสุนัขบ้าที่ยั่งยืน โดยผู้ที่เลี้ยงสุนัขและแมว ต้องมีความรับผิดชอบในการนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี รวมทั้งป้องกันการถูกกัด โดยยึดคาถา 5 ย.คือ “อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง” หากถูกสุนัขหรือแมวกัด ข่วน หรือ เลียบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อยให้รีบ “ล้างแผล ใส่ยา กักหมา หาหมอ ฉีดวัคซีนให้ครบ” คือ รีบล้างแผลด้วยน้ำและสบู่นาน 10-15นาที ใส่ยาฆ่าเชื้อที่บาดแผล และรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้ครบตามที่แพทย์นัดหมายเนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้จนแสดงอาการของโรคแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายและเสียชีวิตได้  จากนั้นกักสัตว์เพื่อดูอาการอย่างน้อย 10 วัน หากสัตว์ตาย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่เพื่อตรวจสอบ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422

 

“ตรวจจับเร็ว ตอบโต้ทัน ป้องกันได้”

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

---