สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา
Responsive image

รณรงค์ สัปดาห์ราชประชาสมาสัย 13 - 19 มกราคม 2568 "วงด่างชา ไม่คัน พากัน มาหาหมอ"

         เนื่องใน “วันราชประชาสมาสัย” วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี เป็นวันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธาน “การกำจัดโรคเรื้อน” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัย เพื่อผลิตบุคลากรและค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้มีสัปดาห์รณรงค์ค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 13 - 19 มกราคม 2568 และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเรื้อนเพื่อให้ประชาชนสามารถสังเกตอาการของตนเองและคนใกล้ชิด ให้เข้ามารับการตรวจรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดความพิการที่อาจเกิดขึ้นได้

        นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า โรคเรื้อน เป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งสามารถติดต่อกันได้โดยทางเดินหายใจ โดยเชื้อนี้ชอบอาศัยอยู่ในเส้นประสาทและผิวหนัง เมื่อร่างกายพยายามกำจัดเชื้อ เส้นประสาทจึงถูกทำลายและทำให้เกิดอาการทางผิวหนังตามไปด้วย หากไม่รีบรักษาจะทำให้เกิดความพิการของมือ เท้า และตา อาการเริ่มแรกของโรคเรื้อน คือผู้ป่วยจะเป็นรอยโรคทางผิวหนังสีจางหรือเข้มข้นกว่าผิวหนังปกติ อาจพบขนร่วง เหงื่อไม่ออก ที่สำคัญคือ ในรอยโรคผิวหนังเหล่านี้จะมีอาการชา หยิกไม่เจ็บ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยชะล่าใจ คิดว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงจึงไม่รีบมารับการรักษา ซึ่งผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงสูงในการติดเชื้อโรคเรื้อน คือ ผู้ที่สัมผัสคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการรักษา แต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องภายใน 7 วัน จะไม่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้อีก หากประชาชนสังเ  กตเห็นผิวหนังเป็นวงด่าง สีขาวซีดจาง หรือเป็นผื่นแดง ตุ่มแดง ไม่คัน มีอาการชาบริเวณดังกล่าว นานเกิน 3 เดือน ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย 

         นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน กล่าวต่อไปว่า แม้ปัจจุบัน โรคเรื้อนจะไม่มีวัคซีน หรือยาป้องกันโรค แต่มียารักษาโรคที่ได้ผลดี เริ่มรักษาได้เร็วเท่าไร ความเสี่ยงเรื่องความพิการก็ยิ่งลดลง ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ให้ได้รับการตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็ว เพื่อให้หายเป็นปกติ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และขอให้ประชาชนทุกคนควรสังเกตตนเองและดูแลผิวหนัง ถ้าเป็นโรคผิวหนังที่ไม่คัน ไม่เจ็บและรักษาไม่หายภายในเวลา 3 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคผิวหนังที่มีอาการชาร่วมด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจรักษา ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความพิการ และไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วย ส่วนผู้ป่วยโรคเรื้อนที่มีความพิการเกิดขึ้นแล้ว เมื่อได้รับการรักษาก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดความพิการเพิ่มมากไปกว่าเดิมได้ สำหรับผู้ที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกับผู้ป่วยโรคเรื้อนที่ยังไม่ได้รับการรักษา ภายในระยะเวลา 6 เดือน ถือเป็นกลุ่มผู้สัมผัสโรคที่จะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายปีละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 10 ปี เพื่อตรวจหาเชื้อ หากมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ดาวน์โหลดเอกสารเพิ่มเติม : เอกสาร

ข่าวสารอื่นๆ